รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 แถลงหลังหารืออธิการบดี 2 ชั่วโมง โดยยืนยัน ต้องมีรัฐบาลอำนาจเต็มมาบริหารประเทศ ต้องอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ พร้อมขอยุติรุนแรง จี้ นปช. และ รัฐบาล คุย ภายหลังจากการประชุมหารือและรับฟังความคิดเห็นที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา กว่า 2 ชั่วโมง นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานอธิการบดีแห่งประเทศไทย ได้แถลงถึงผลการหารือ ว่า ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า ในขณะนี้รัฐบาลรักษาการมีอำนาจจำกัด จึงจำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มมาบริหารประเทศ เพราะขณะนี้ประเทศได้หยุดชะงักอยู่ ส่วนกลไกที่จะได้มาของรัฐบาลชุดใหม่นั้น ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ นายสุรชัย ได้ขอให้คู่ขัดแย้งทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงในระหว่างรอคำตอบจากวุฒิสภา อย่าเพิ่งตัดสินอะไร เพราะบทสรุปยังไม่ออกมา พร้อมกันนี้ ก็ได้ฝากย้ำไปถึงรัฐบาล และแกนนำ นปช. ว่า ทางวุฒิสภา ยังมีความต้องการที่จะหารือพูดคุยด้วย ขอให้ได้ติดต่อมา พท.ออกแถลงการณ์ไม่ขอสังฆกรรมร่วมส.ว. คณะกิจการพรรคเพื่อไทย นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย คณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ ขอคัดค้านแนวทางการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีนอกรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การดำเนินการของ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ในการเรียกประชุมวุฒิสภานั้น ไม่อาจกระทำได้ แม้ นายสุรชัย จะอ้างว่า เป็นการประชุมนอกรอบก็ตาม เพราะรัฐธรรมนูญ ม. 132 บัญญัติไว้ นอกจากนี้ ความพยายามในการแต่งตั้งนายกฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการกระทำอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ม. 68 หากยังคงดำเนินการต่อไป หากเกิดอะไรขึ้น นายสุรชัย และสมาชิกวุฒิสภา จะต้องร่วมกันรับผิดชอบกับการกระทำดังกล่าว และนายกรัฐมนตรีที่แต่งตั้งขึ้นใหม่โดยผิดกฎหมายนั้น จะถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชน และการที่ นายสุรชัย ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน อำนวยความสะดวกให้กับ นายสุเทพ เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมายของ นายสุเทพ คือ การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ย่อมมีผลเท่ากับ นายสุรชัย กระทำการล้มล้าง รัฐธรรมนูญ ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจฝ่ายบริหาร หรือเพื่อให้ใช้อำนาจดังกล่าวมิได้ อันเข้าข่ายเป็นผู้กระทำความผิดฐานเป็นกบฏเสียเอง หรือสนับสนุนให้ นายสุเทพ กระทำความผิดฐานเป็นกบฏ