"อมตะ"เผยนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาลงทุนไทยหลังการเมืองคลี่คลาย มั่นใจทั้งปีขายได้เกิน1พันไร่ นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่และกรรมการบริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการลงทุนจากต่างประเทศกลับเข้ามาชัดเจนมากขึ้นจากกลุ่มทุนยุโรป สหรัฐ จีน และญี่ปุ่น หลังสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลาย ประกอบกับมีการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอชุดใหม่ ที่ได้มีการอนุมัติโครงการการลงทุนไปแล้วที่ 1.2 แสนล้านบาท และยังมีโครงการที่พิจารณาค้างอยู่อีก 5.8 แสนล้านบาท "คาดว่าจะเป็นผลดีกับทิศทางการลงทุนในช่วงต่อไป และเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติที่มั่นใจว่า หลังจากนี้จะเริ่มทยอยกลับเข้ามาติดต่อและเจรจา เพื่อซื้อที่ดินในนิคมฯอย่างต่อเนื่อง" ส่วนของบริษัทอมตะ มีการเจรจาเพื่อซื้อที่ดินทั้งในส่วนของ นิคมฯอมตะนคร และนิคมฯอมตะ ชิตี้ รวม 700-800 ไร่ โดยแบ่งเป็นกลุ่มทุนจากจีน ประมาณ 500 ไร่ และในส่วนนี้จะมีนักลงทุนรายใหญ่ของจีน ที่ต้องการซื้อพื้นที่ จำนวน 120 ไร่ ส่วนที่เหลือ 100-200 ไร่ จะเป็นของกลุ่มทุนจากยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น โดยอุตสาหกรรมที่เข้ามา จะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ประมาณ 60-70% เพราะมองว่าไทยมีข้อได้เปรียบเรื่องฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก "เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่ยุโรปตัดสินใจมาลงทุนในไทยครั้งนี้ เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ประกอบกับตลาดมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากการที่ไทยจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ทำให้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์การลงทุนที่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนทั่วโลก แม้ช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ในประเทศ ยังมีปัญหาทางการเมืองที่ยังขาดเสถียรภาพ แต่นักลงทุนในยุโรป และสหรัฐ มีความเข้าใจในสถานการณ์ของแต่ละประเทศดี สามารถแยกออกระหว่างปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจได้" เขากล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายยอดขายพื้นที่ดินในปีนี้ ยังไม่สามารถกำหนดได้ เนื่องจากต้องรอข้อสรุปในทิศทางต่างๆ โดยเฉพาะการกำหนดแผนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่และโรดแมพที่จะออกมา เพื่อเดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะเป็นตัวแปรที่สำคัญในการประเมินทิศทางการลงทุน และการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติ ที่จะเข้ามาในระยะต่อไปอีกด้วย "ทิศทางตลาดการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมเริ่มสดใสมากขึ้น คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีจำนวนนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาเจรจา และติดต่อซื้อขายที่ดินมากขึ้นทั้งรายเก่า และรายใหม่ โดยภาพรวมปีนี้น่าจะมียอดขายที่ดินมากกว่าปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 1,008 ไร่ แม้จากต้นปีจนถึงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มียอดขายที่ดินแล้ว 178 ไร่ เพราะขณะนี้มีลูกค้าอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน" ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยอดขายพื้นที่ใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมน่าจะเติบโตได้ 3.7-9.7% จากที่หดตัวประมาณ 57.7% ในช่วงครึ่งแรก โดยคาดว่าภาพรวมการขายพื้นที่ใหม่ ในนิคมอุตสาหกรรมในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 3.5-3.9 พันไร่ ลดลง 18-27% จากปี 2556 แม้ว่ารายได้จากการขายพื้นที่ใหม่ในปีนี้จะยังลดลง และการฟื้นตัวของรายได้ ในส่วนนี้อาจต้องรอไปจนถึงปีหน้า แต่รายได้จากการให้บริการ ด้านสาธารณูปโภคและการให้เช่าโรงงานและคลังสินค้า การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ยังเติบโตได้ตามระดับการผลิตและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบางรายมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับการเติบโตของการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนที่คาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า Tags : วิบูลย์ กรมดิษฐ์ • อมตะ • ต่างชาติ • ที่ดิน • การเมือง