สามารถคอร์ปอเรชั่น ทุ่ม 2,875 ล้านบาท ซื้อหุ้นสามารถ ไอ-โมบายเกือบ 24% คืนจาก"เอเซียต้า" บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น และ บริษัท เอเซียต้า กรุ๊ป (AXIATA GROUP BERHAD หรือ AXIATA) ได้มีการลงนามในสัญญาการซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัทสามารถ ไอ-โมบาย (“SIM”) โดยเอเซียต้า จะขายหุ้นสามัญของสามารถไอ-โมบาย 1,053 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 23.93% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด คืนให้แก่ บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในราคาหุ้นละ 2.73 บาท รวมมูลค่า 2,875 ล้านบาท รายการซื้อขายดังกล่าว จะดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากวันลงนาม โดยภายหลังการดำเนินการเสร็จสิ้น บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น จะมีสัดส่วนการถือครองหุ้นสามารถไอ-โมบาย รวมทั้งสิ้น 74.11% นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า กลุ่ม Axiata หรือเดิมคือ เทเลคอมมาเลเซีย ได้เข้ามาถือหุ้นในกลุ่มบริษัทสามารถ นับตั้งแต่ปี 2540 ถือเป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แข็งแกร่งและยาวนานเกือบ 17 ปี "การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะมีข้อขัดแย้งใดๆ แต่มีที่มาจากเหตุผลทางธุรกิจ และนโยบายการลงทุนของกลุ่มเอเซียต้า เป็นหลัก เพราะเอเซียต้า ประกอบธุรกิจหลักในการเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ หรือ Mobile Operator" ในขณะที่ขอบข่ายธุรกิจปัจจุบันของสามารถ ไอ-โมบาย มุ่งเน้นการจำหน่ายมือถือและการให้บริการคอนเทนท์ จึงไม่สอดคล้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของเอเซียต้า อีกทั้งกลุ่มบริษัทสามารถ ก็มีนโยบายในการจะถือครองหุ้นในบริษัทลูกไม่ต่ำกว่า 70% โดยประมาณ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงาน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาและนำมาซึ่งข้อตกลงที่น่าพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย "การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเสถียรภาพและความแข็งแกร่งของสามารถ ไอ-โมบาย แน่นอน โดยบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ การให้บริการคอนเทนท์ผ่านสื่อมัลติมีเดีย และการให้บริการ MVNO เต็มรูปแบบ" เขากล่าวด้วยว่า ผลประกอบการที่ผ่านมา ได้สะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจของไอ-โมบายชัดเจนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายตัวของตลาดสมาร์ท โฟน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรอย่างโดดเด่น ล่าสุดไตรมาสแรกปีนี้ ไอ-โมบาย สามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือสมาร์ท โฟน และฟีเจอร์ โฟน รวมกันแล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง โดยมีราคาขายเฉลี่ยขยับสูงขึ้นถึง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน "ผมยังคงมั่นใจว่า จะสามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในปีนี้ ได้ถึง 4 ล้านเครื่อง ประมาณการรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2556 และการเข้าซื้อหุ้นไอ-โมบายครั้งนี้ ยังจะส่งผลบวกต่อกำไรในงบการเงินรวมของสามารถคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เพราะจะสามารถรับรู้ผลกำไรของไอ-โมบายเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือครองหุ้น จากเดิม 57% เป็นกว่า 70%" นายวัฒน์ชัย กล่าว ทั้งนี้หลังจากการทำรายการดังกล่าว สามารถคอร์ปอเรชั่น จะมีสัดส่วนการถือหุ้นในสามารถ-ไอโมบาย 74.11% ขณะที่ล่าสุดหุ้นสามารถ-ไอโมบาย ปิดการซื้อขายที่ 3.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 3.95% สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียนล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา โครงสร้างผู้ถือหุ้นสามารถ-ไอโมบาย ประกอบด้วย 1.บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 2,520,539,400 หุ้น คิดเป็น 57.36% บริษัทเอเซียต้า กรุ๊ป ถือหุ้น 1,053,000,000 หุ้น คิดเป็น 23.96% 3.บริษัท สามารถเทลคอม ถือหุ้น 67,793,200 หุ้น คิดเป็น 1.54% 4.บริษัท วิไลลักษณ์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 36,811,500 หุ้น คิดเป็น 0.84% 5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 34,064,400 หุ้น คิดเป็น 0.78% 6.นายทวีฉัตร จุฬางกูร ถือหุ้น 24,692,200 หุ้น คิดเป็น 0.56% 7.นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้น 24,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.55% และ 8.นาย กุลวุฒิ วิรัตน์มาลี ถือหุ้น 23,950,000 หุ้น คิดเป็น 0.55% Tags : สามารถ • ไอโมบาย • เอเชียต้า