ศูนย์วิจัยทองคำ ประเมินราคาทองคำครึ่งปีหลัง หลุด 20,000 บาท โดยต่ำสุดอาจถึง 16,700 บาท ชี้เงินบาทอ่อนค่าการเมืองกดดัน นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยเป้าหมายราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง ว่า จากการสำวจความเห็นผู้ค้ารายใหญ่ 6ราย มองราคาทองคำโลกอยู่ที่ 1,200-1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาในประเทศ ต่ำกว่า 20,000 บาท ราคาต่ำสุดที่ระดับ 16,700 บาทและสูงสุดที่ 22,000 บาท ขึ้นอยู่กับค่าเงินบาท ที่คาดว่าจะเคลื่อนไหว 32-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยการเมืองเข้ามามีบทบาททางอ้อมต่อราคาทองคำ เนื่องจากหากปัญหาการเมืองยังยืดเยื้อเกินไตรมาส 3 จะมีผลกระทบกระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลออก และ อาจมีการลดเครดิตเรตติ้งของประเทศได้ ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งอาจมีผลให้ราคาทองในประเทศปรับขึ้นได้ ขณะที่พฤติกรรมซื้อทองคำ ผู้บริโภคนิยมซื้อทองคำรูปพรรณมากกว่าทองคำแท่ง สาเหตุเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ ซื้อทองคำในราคาสูงก่อนหน้านี้ ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index) เดือน พ.ค. 57 ว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 50.46 จุดเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนเล็กน้อย 2.45 จุด หรือร้อยละ 5.11 จุด จากระดับ 48.01 สะท้อนทัศนคติที่มีต่อราคาทองคำในประเทศว่าไม่ค่อยแน่ใจต่อทิศทางราคาทองคำทั้งกลุ่มนักลงทุนและกลุ่มผู้ค้า สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วง 3เดือน ข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 52.88 จุด ลดลงเล็กน้อย 1.69 จุด หรือร้อยละ 3.10 โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าความผันผวนของค่าเงินบาท ความขัดแย้งในยูเครน การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อราคาทองคำเดือนนี้ ส่วนราคาทองคำเดือนพฤษภาคม ใกล้เคียงเดือนเมษายน เคลื่อนไหวที่ 1,250-1,380 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองในประเทศ 19,000-21,200 บาท Tags : ศูนย์วิจัยทองคำ • ราคาทอง