สยามพิวรรธน์-แมกโนเลียฯ-ซีพี ลงทุนเพิ่ม40% เดินเครื่อง ไอคอนสยาม 7.5แสนตร.ม. มูลค่าโครงการ5หมื่นล. สยามพิวรรธน์-แมกโนเลียฯ-ซีพี ลงทุนเพิ่ม 40% เดินเครื่อง “ไอคอนสยาม” อาณาจักรศูนย์การค้า-คอนโดหรู 7.5 แสนตร.ม. มูลค่าโครงการ 5 หมื่นล้าน เปิด “มาสเตอร์แพลน” ผนึกความร่วมมือรัฐ-เอกชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปั้นแลนด์มาร์คใหม่ ชู “7 สิ่งมหัศจรรย์” ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก ดีเดย์ปี 2560 เล็งกว้านที่ดินรอบข้างขยายโครงการเชื่อมรถไฟฟ้า ชี้ศักยภาพริมน้ำเจ้าพระยาดึงดูดนักลงทุนแห่ผุด 30 โครงการมูลค่ากว่า 1.12 แสนล้าน ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง 3 ทุนไทยยักษ์ใหญ่ สยามพิวรรธน์ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี.) ได้ฤกษ์เปิดองค์ประกอบและประกาศชื่อโครงการแลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา “ไอคอนสยาม” มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท บนที่ดิน 50 ไร่ ย่านเจริญนคร นับเป็นอภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต กำหนดเปิดบริการปี 2560 ซึ่งจะเป็นการ “โชว์เคส” ประเทศไทยแข่งขันบนเวทีโลก วานนี้ (1 ก.ค.) นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด นางสาว ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ นายณรงค์ เจียรวนนท์ ผู้ช่วยอาวุโสประธานกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ร่วมกันเปิดเผย รายละเอียดโครงการไอคอนสยาม (ICONSIAM) ภายใต้แนวคิด The Icon of Eternal Prosperity หรือเมืองแห่งความรุ่งโรจน์อันเป็นนิรันดร์ พร้อมกันนี้ ได้ประกาศแผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา (ICONSIAM River Master Vision) ที่จะเป็นการผนึกกำลังของธุรกิจโรงแรม ค้าปลีก ผู้ประกอบการเรือสัญจร และแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพื่อเนรมิตพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ยาว 10 กิโลเมตร ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกแห่งใหม่ นางชฎาทิพ กล่าวว่า ไอคอนสยาม มีการขยายพื้นที่โครงการใหญ่ขึ้น โดยการซื้อที่ดินที่อยู่ล้อมรอบโครงการเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันมีขนาดพื้นที่ 50 ไร่ จากเดิม 40 ไร่ ส่งผลให้มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 40% เป็น 5 หมื่นล้านบาท จากเดิม 3.5 หมื่นล้านบาท โดยกำหนดเปิดบริการภายในปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์ครบ 70 ปี และมีพระชนมายุครบ 90 พรรษา แนวทางพัฒนาโครงการอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ธุรกิจ ที่ต้องการออกแบบเมืองที่สง่างามสมบูรณ์แบบ ผสมผสานที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า และพื้นที่ชุมชน (Community space) รวม 7.5 แสนตร.ม. ไว้ด้วยกัน “เป็นโครงการระดับโลก ซึ่งจะทำให้ประเทศไทย ก้าวไปอยู่ในทำเนียบประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสัญลักษณ์อันโดดเด่น ขับเคลื่อนกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่ามาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หรือ โกลเบิล เดสทิเนชั่น” สำหรับการลงทุนโครงการไอคอนสยาม ใช้เงินกู้ 50% โดยมีธนาคารกสิกรไทยและธนาคารธนชาติ เป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน และยังมีแผนขยายที่ดินบริเวณรอบโครงการเพิ่มรองรับส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้า ทั้งเป็นการเสริมศักยภาพโครงการมากยิ่งขึ้น ผนึก "รัฐ-เอกชน" ปั้นแลนด์มาร์ค ไอคอนสยาม ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีด้านหน้าทอดยาวเลียบริมน้ำมากกว่า 400 เมตร เป็นจุดเด่นในการต่อยอดและสร้างความร่วมมือทางธุรกิจ บริเวณดังกล่าวมีทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ท่ามกลางโครงการที่พักอาศัยระดับบนกว่า 200 โครงการ มีผู้พักอาศัยมากกว่า 3 ล้านคน มีโรงแรมเชนระดับโลกในรัศมี 10 กิโลเมตร ถึง 50 แห่ง รวมห้องพักกว่า 1 หมื่นห้อง ในอีก 3-5 ปีข้างหน้าจะมีโครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่สร้างเสร็จเพิ่มเติมในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย “ระหว่างปี 2555-2563 มีโครงการค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมต่างๆ เกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 30 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 1.12 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดนี้สามารถเชื่อมเครือข่ายสร้างพลังในการทำตลาดแบบ One Destination” เปิดสัญจรทางน้ำเพิ่มทางเลือก ทั้งนี้ แผนแม่บท ‘ICONSIAM River Master Vision’ จะร่วมมือกับผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ กว่า 30 ราย ซึ่งมีทั้งผู้ค้าปลีก เจ้าของโรงแรม ผู้ประกอบการเรือสัญจรในแม่น้ำ และสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในการผลักดันแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก เพิ่มเสน่ห์ให้กรุงเทพฯ ในฐานะเมืองจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่น่าจดจำ สำหรับ พันธมิตรที่ตกลงเข้าร่วมผนึกกำลังในแผนแม่บทดังกล่าวแล้ว ได้แก่ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน, โรงแรมแชงกรีล่าเรือด่วนเจ้าพระยา เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพ เป็นต้น “โครงการความร่วมมือจะเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลที่ทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนวิถีการเดินทางในกรุงเทพฯ อยากหันมาใช้การเดินทางทางน้ำมากขึ้น เป็นทางเลือกใหม่นอกเหนือจากการใช้รถยนต์” สอดรับนโยบายของ สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานครมีแนวคิดที่จะสร้างทางเดินเลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไอคอนสยามจะสร้าง เดอะ ริเวอร์ พาร์ค หรือ ลานคนเมือง พื้นที่กว่า 1 หมื่นตร.ม. เป็นพื้นที่จัดแสดงงานประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ ผุด 2 ศูนย์การค้า 2 คอนโดหรู นางสาวทิพาภรณ์ กล่าวว่า ไอคอนสยาม เปรียบเสมือน “เมืองใหม่” ประกอบด้วย 2 อาณาจักรศูนย์การค้า พื้นที่ 5.25 แสน ตร.ม. อาคารที่พักอาศัยริมน้ำระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ 70 ชั้น 1 อาคาร และ 40 ชั้น 1 อาคาร นอกจากนี้ ยังมี “7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม” ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เป็นแม่เหล็กหลัก สำหรับ 2 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ ได้แก่ ระบำน้ำพุ หรือ การแสดงสายน้ำผสมผสานมัลติมีเดียแสงสีเสียง และไฟ (Multi-Media Water-and-Fire Feature) ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่า 400 เมตร นอกจากนี้ จะมีพิพิธภัณฑ์ศูนย์รวมของมรดกทางประวัติศาสตร์และสุดยอดภูมิปัญญาไทย หรือ แชมเปี้ยนไทย ดึงแบรนด์ปั้น “ไอคอนสตอรี่” อาณาจักร 2 ศูนย์การค้า แยกเป็นอาคารลักชัวรี่ พื้นที่ 2.5 หมื่นตร.ม.ด้านหน้าอาคารยาวกว่า 300 เมตร ขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการรวบรวมที่สุดของแบรนด์ดังระดับโลกที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ Icons within Icon เป็นแห่งแรกในโลก โดยการเนรมิตคฤหาสน์ (Brand Mansions) ถ่ายทอดเรื่องราวและเอกลักษณ์ของแบรนด์อันเป็นมรดกตกทอด รวมถึงการรวมภัตตาคารหรูระดับ 3 มิชลินสตาร์จากประเทศต่างๆ ส่วนอาคารเมน รีเทล พื้นที่ 5 แสนตร.ม. อยู่ติดถนนเจริญนคร จะเป็นแหล่งของการนำเสนอ ประสบการณ์แปลกใหม่ ด้วยการสร้างพื้นที่ของร้านค้าในรูปแบบที่ไม่มีใครเหมือนในบรรยากาศอินดอร์และเอาท์ดอร์ รวม 500 ร้านค้า 100 ภัตตาคารจาก 30 ประเทศ นอกจากนี้ จะมีศูนย์การประชุมระดับโลก (World Class Auditorium) 3,500 ที่นั่ง สามารถจัดการประชุมผู้นำระดับโลก งานสำคัญของรัฐบาล งานแสดงสินค้านิทรรศการต่างที่จะหมุนเวียนมาจากประเทศต่างๆ และรองรับโชว์จากบรอดเวย์ เป็นต้น ขณะที่ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนท์ ที่ไอคอนสยาม จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของโครงการที่พักอาศัยในไทย ทั้งเชิงคุณภาพและความหรูหราที่สามารถติดต่อสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับชุมชนโลก ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารระบบไฟเบอร์ออพติคให้ความเร็วสูงสุดแห่งแรกในไทย หนุนกรุงเทพฯฮับการค้า-ท่องเที่ยว นายณรงค์ กล่าวว่า ไอคอนสยามจะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของกรุงเทพฯ ในการดึงดูดคนจากทั่วโลกเข้ามาพำนัก ท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย ในประเทศไทย เสริมศักยภาพให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและธุรกิจของภูมิภาคอาเซียนและโลก “ไอคอนสยามจะจุดประกายความรุ่งเรืองให้กับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง” แม่น้ำเจ้าพระยา นับเป็นแหล่งอารยธรรมที่มีคุณค่าและมีศักยภาพมากที่สุด ซึ่งแผนแม่บท ICONSIAM River Master Visionจะช่วยจุดประกายความเรืองรองของแม่น้ำเจ้าพระยากลับมาสว่างไสวโดดเด่นอีกครั้ง นางชฎาทิพ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นเตรียมงบกว่า 200 ล้านบาททำการตลาดสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ “ไอคอนสยาม” ช่วง 6 เดือนสุดท้ายปีนี้ เป็นการตลาดระดับโลกที่จะมีการโรดโชว์ประเทศต่างๆ พร้อมทำการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ผ่านช่องทางพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ สำนักงานการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ สถานทูต ฯลฯ ทุ่มซื้อที่ดินมูลค่าเกือบ 4 พันล้าน ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ราคาที่ดินในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยราคาซื้อขายที่ดินเพิ่มจากประมาณ 110,000 บาทต่อตร.ว. ในปี 2551 มาเป็น 265,000 บาทต่อตร.ว.ในปี 2554 หรือปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 40% แต่ในปัจจุบัน คาดว่า ราคาขายจะมากกว่า 300,000 บาทต่อตร.ว. โดยที่ดินบริเวณที่ตั้งโครงการไอคอนสยาม 37 ไร่ 2 งาน 48 ตร.ว. หรือ 15,048 ตร.ว. (ก่อนขยายพื้นที่เป็น 50 ไร่) พบว่า มีราคาขายอยู่ที่ 263,459 บาทต่อตร.ว. หรือเท่ากับเฉพาะค่าที่ดินโครงการนี้มีมูลค่า 3,964 ล้านบาท Tags : สยามพิวรรธน์ • แมกโนเลีย • ซีพี • ไอคอนสยาม • หมื่นล้าน • เจ้าพระยา • ชฎาทิพ จูตระกูล • อาณาจักร • ศูนย์การค้า • กรุงเทพ