หุ้นโรงแรมจับมือปรับขึ้นหลังการเมืองมีภาพที่ดีขึ้นเซ็นเทล-ไมเนอร์วิ่ง17%ด้านโรงแรมเซ็ลทรัลมองกำไรฟื้น ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในกลุ่ม โรงแรมปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในช่วงวันที่ 22 พ.ค.ถึงวันที่ 27 มิ.ย. โดย บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (centel) ปิดที่ 37.00 บาทต่อหุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.46 % บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป ปิดที่ 4.40 บาทต่อหุ้น ปรับเพิ่มขึ้น 11.68 % และ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ปิดที่ 29.25 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 17.47 % มาร์เก็ตแคปมารวมกันที่ 177,886.69 ล้านบาท ณปัจจุบัน จากวันที่ 22 พ.ค.อยู่ที่ 155,653.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,213.08 ล้านบาท นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 19,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 17,900 ล้านบาท รายได้จะเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4/2557 เพราะเป็นช่วง ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาสูงสุด โดยก่อนหน้าที่มีการยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก ทำให้มีการยกเลิกยอดที่จองไว้ไปกว่า 50% หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่งผลดีต่อยอดจองโรงแรมเป็นการเพิ่มขึ้นจากการจองผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้นทันที 3 เท่าตัว และหลังจากมีการประกาศยกเลิกและสถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติทำให้ในตอนนี้มียอดจองผ่านทางออนไลน์กลับเป็นปกติ และเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10% และคาดว่าทั้งปีจะมียอดจองผ่านทางออนไลน์ดูเติบโตขึ้นหลายเท่าตัว สำหรับรายได้ในครึ่งปีหลัง มองว่าจะเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4/2557 โดยตัวที่จะขับเคลื่อนกำไรในปีนี้ยังคงเป็นโรงแรมที่มัลดีฟส์เป็นหลัก โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในส่วนนี้ประมาณ 18% ส่วนโรงแรมในต่างจังหวัดยังทรงตัวไม่ลดหรือเพิ่มมากนัก ด้านโรงแรมในพื้นที่กรุงเทพมีการหดตัวอยู่ซึ่งเรา ต้องรอดูโรดแมพ ของคสช.ที่จะออกมาในเดือนก.ค. มีทิศทางอย่างไร สร้างความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ หากสร้างความเชื่อมั่นได้อาจจะทำให้ส่วนในกรุงเทพมีการปรับตัวดีขึ้น แต่หากมีจัดตั้งรัฐบาลขึ้นเร็วเท่าไร มั่นใจว่าจะส่งผลทุกส่วน อย่างไรก็ตาม ด้านกำไรของบริษัทในไตรมาสที่ 1 นั้น มีรายได้ 4,625.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.5 % โดยมีกำไรสุทธิ 501.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 22.7 % นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้ลงไปแตะจุดต่ำสุดในเดือน พ.ค. 2557 แต่ที่ผ่านมาหากพิจารณาผลการดำเนินงานของกลุ่มพบว่า ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้น่าจะฟื้นตัวได้ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม โดยในส่วนของเซ็นเทลนั้นมองว่า ผลประกอบการของบริษัทจะฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปีนี้ เพราะเป็นช่วงไฮซีซัน ถือว่าเป็นจังหวะที่น่าลงทุน (ช่วง ส.ค.-ก.ย.) ซึ่งบริษัท ยังคงเป้าอัตราการเข้าพักโรงแรมทั้งปีอยู่ที่ 75% จากปีก่อนที่ทำได้ 80% ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะขาดทุน หลังรับรู้รายได้ สัดส่วนรายได้เฉลี่ยต่อห้องโรงแรมในกรุงเทพฯหดตัว 27% ขณะที่โรงแรมในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.6% และโรงแรมในมัลดีฟส์ขยายตัวเพิ่มขึ้น 17.2% ด้านยอดขายอาหารต่อสาขาชะลอตัวในช่วงไตรมาส 1/2557 ที่ผ่านมาแต่ในช่วงเดือน เม.ย. เริ่มกลับมาขยายตัว แม้จะเริ่มมีการขยายตัวเพิ่มในต้นไตรมาส 2/2557 แต่ในครึ่งปีแรกกำไรจากธุรกิจอาหารเติบโตได้ไม่ดีนัก ต้องดูกันอีกทีในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 ธุรกิจอาหารอาจกลับมาฟื้นตัวได้เนื่องจากมีการหนุนโดยจ่ายภาคการบริโภคสูงขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัด (ประมาณ 49% ของรายได้ธุรกิจอาหาร) Tags : รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ • โรงแรมเซ็นทรัล