ผู้บริหารกลุ่มช.การช่างขายหุ้นหลังราคาวิ่งใกล้ไฮ รับกำไรรวมกว่า 5.3 ล้านบาท ผู้บริหารกลุ่มช.การช่างขายหุ้นหลังราคาวิ่งใกล้ไฮ รับกำไรรวมกว่า 5.3 ล้านบาท สำรวจพบราคาหุ้นรถไฟฟ้ากรุงเทพในเดือนมิ.ย.วิ่ง 32% ส่วนหุ้นทางด่วนกรุงเทพเพิ่ม 7.91% ด้านนักวิเคราะห์ระบุหุ้นรถไฟฟ้ากรุงเทพพื้นฐานดีระยะยาว หลังเพิ่มทุนเมื่อตอนต้นปีส่งผลฐานะการเงินแกร่ง และแนวโน้มได้งานเดินรถไฟฟ้าต่อเนื่อง ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) ระบุว่า นางสาววลัยณัฐ ตรีวิศวเวทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) รายงานการจำหน่ายหุ้น เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. รวมจำนวน 110,000 หุ้น ที่ราคา 37 บาท, 36.50 บาท และ 36.75 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าขายทั้งสิ้น 4.04 ล้านบาท และนายสุพงศ์ ชยุตสาหกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) รายงานการจำหน่ายหุ้น จำนวน 1 ล้านบาท ที่ราคา 1.36 บาท คิดเป็นมูลค่า 1.36 ล้านบาท ทั้งนี้ รวมมูลค่าการขายของผู้บริหารกลุ่มช.การช่าง ทั้งสิ้น 5.38 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการสำรวจราคาหุ้นเดือนมิ.ย.ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) ในเดือนมิ.ย. พบว่า ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 7.91% โดยราคาสูงสุดของเดือนอยู่ที่ 37.50 บาทในวันที่ 27 มิ.ย. ส่วนราคาต่ำสุดอยู่ที่ 34.75 บาทในวันที่ 4 มิ.ย. ส่วนราคาหุ้นบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 32.08% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 1.41 บาทในวันที่ 27 มิ.ย. ส่วนราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1.03 บาทในวันที่ 9 มิ.ย. นักวิเคราะห์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ภายหลังจากการเข้าพบผู้บริหารบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ ในงานพบนักวิเคราะห์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2557 ทำให้มีมุมมองเป็นบวกต่อบริษัท โดยผู้บริหารได้ให้แนวโน้มว่าธุรกิจน่า จะเริ่มกลับมาพลิกฟื้นในไม่ช้า หลังจากที่บริษัทได้สัญญาในการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่ - บางซื่อ อายุสัญญา 30 ปี มูลค่ากว่า 5.7 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมสัญญาการจัดหารถไฟฟ้า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งช.การช่าง ได้รับสัญญาต่อจาก รถไฟฟ้ากรุงเทพ) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มเดินรถได้อย่างช้าสุดในช่วงไตรมาส 4/2559 เบื้องต้นประเมินจะมีผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันที่ 2-3 แสนเที่ยว ซึ่งจะช่วยส่งคนเข้ามาสู่รถไฟฟ้าดินสายสีน้ำเงินเดิมให้เพิ่มสูงขึ้นทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทจะกลับมาเป็นกำไรได้ นอกจากนี้ บริษัทจะยังเข้าร่วมในการประมูลสัญญาการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค ที่จะเปิดประมูลในปลายปีนี้ โดยผู้บริหารยังมองความได้เปรียบที่เป็นผู้ประกอบการเดิมที่มีประสบการณ์ในการเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน รวมถึงการที่บริษัทได้มีการเพิ่มทุนไปช่วงต้นปีทำให้ฐานะทางการเงินมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน มองปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นถ้ามีการเปิดให้บริการสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่มีแผนในการเปิดใช้ในปี 2560 ซึ่งจะทำให้เพิ่มยอดจำนวนผู้โดยสารที่จะเข้ามาในสายสีน้ำเงินเดิมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และจะพลิกเป็นกำไรในที่สุด บริษัทยังมีแผนที่จะนำบริษัท BMN ที่บริษัทได้ถือหุ้นอยู่ 65.19% ซึ่งเป็นผู้ประกอบการด้านสื่อโฆษณา และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในบริเวณรถไฟฟ้าใต้ดิน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีหน้า เพื่อนำเงินไปลงทุนเพิ่มจากการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นและอัตราค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้น "มองว่าธุรกิจน่าจะเริ่มกลับมา Turnaround ภายหลังการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งบริษัทจะได้รับค่าบริหารการเดินรถเฉลี่ยที่ 2 พันล้านต่อไปรวมถึงเรามองไปยังจำนวนผู้โดยสารที่จะเข้ามาในระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิมที่ เพิ่มสูงขึ้นทำให้รายได้จากสายสีน้ำเงินเดิมเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ มองว่าโอกาสที่จะได้สัญญาการเดินรถในสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค ก็มีสูงเช่นเดียวกันซึ่งบริษัทเองก็คงต้องใช้ความพยายามเต็มที่ให้การที่จะได้มา เพราะจะเป็นผลดีกับสายสีน้ำเงินเดิมเป็นอย่างมาก รวมถึงความสะดวกที่ผู้โดยสารจะได้รับ เรายังอยู่ในระหว่างการทำประมาณการของบริษัท" Tags : ช.การช่าง • ขายหุ้น • ทางด่วน