พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ศาลทหารออกหมายจับ นายจักรภพ เพ็ญแข กับพวกรวม 8 คน ว่า สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจับกุมอาวุธสงครามได้จำนวนมาก และจากการขยายผลสืบสวนสอบสวนก็มีการพาดพิงไปถึงนายจักรภพ ว่ามีส่วนรู้เห็นและเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามดังกล่าวกว่า 10 คดี จึงนำไปสู่การออกหมายจับ และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลต่อไป หากมีการพาดพิงถึงใครก็จะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการขอหมายจับ โดยล่าสุดทราบว่าขณะนี้นายจักรภพ อยู่ที่เกาะฮ่องกง หลังจากนี้ ทาง สตช. จะมีการประสานงานไปยังอัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำเรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้จะสามารถดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ได้ภายในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ในส่วนของบุคคลรายอื่น มอบหมายให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.น. และ พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ช่วยราชการ รองผบช.น. เร่งจับกุม ซึ่งในนั้นมี นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ รวมอยู่ด้วย ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักรภพ เพ็ญแข ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อกล่าวหาเรื่องอาวุธสงครามและการเพิกถอนหนังสือเดินทางผ่านเว็ปไซต์ "asia provocateur" ใจความว่า ตนขอพูดอย่างชัดเจนว่าไม่มีหลักฐานใด ที่สามารถเชื่อมโยงตนกับอาวุธที่คณะเผด็จการทหารยึดมาได้ และตนขอท้าทายให้พวกเขาแสดงหลักฐานเหล่านั้น แน่นอนว่าแม้แต่การยึดอาวุธเหล่านั้นก็มีกลิ่นของความน่าสงสัยโชยออกมา เพราะไม่มีการสอบสวนที่เป็นอิสระเรื่องการยึดอาวุธ ไม่มีการเก็บลำดับขั้นตอนหลักฐาน และข้อกล่าวหาที่ทหารหยิบยกขึ้นมานั้น ไม่มีความน่าเชื่อถือ สามารถถูกหักล้างได้อย่างง่ายดาย หากถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งนี้การกระทำดังกล่าว เพื่อเร่งรัดให้ตนถูกดำเนินคดียืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นในการต่อสู้แบบติดอาวุธ ผู้ที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ "ส่วนกรณีที่คณะทหารพยายามจะทำเรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ในข้อหาดังกล่าว พวกเขาเองควรจะต้องรับรู้ว่าไม่มีรัฐบาลไหนในโลกใบนี้ที่จะเชื่อฟังยอมจำนนต่อคำข่มขู่ของพวกเขา เพราะผมจะได้รับสิทธิในการเข้าถึงหลักฐานทั้งหมดที่พวกเขาสร้างขึ้นมา รวมถึงพื้นที่ในการท้าทายหลักฐานเหล่านั้น" ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในแถลงการณ์ครั้งนี้ นายจักรภพ เพ็ญแข ยังกล่าวโจมตีคสช.ด้วยถ้อยคำรุนแรงกรณีที่ คสช.เพิกถอนหนังสือเดินทางของเขา โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า "ทำให้ประชาชนคนไทยที่ต่อต้านการปกครองระบอบทหาร กลายเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองการเพิกถอนหนังสือเดินทาง จะประจานให้ประชาคมโลกเห็นว่า คณะเผด็จการทหารไทยไม่ต่างไปจากกลุ่มทรราช ผู้เกรี้ยวกราด ที่ประพฤติตนนอกมาตรฐานกฎหมายระหว่างประเทศ"