"เวิร์คพอยท์"ขาดทุนไตรมาสแรก 1 ล้านบาท แจงลงทุนทีวีดิจิทัลหนัก-การเมืองไร้เสถียรภาพกดเม็ดเงินโฆษณาวูบ 7% นายสุรการ ศิริโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปีนี้ พลิกขาดทุนสุทธิ 1.06 ล้านบาท จากไตรมาสแรกปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 32.94 ล้านบาท ผลขาดทุนเกิดจากการที่บริษัทอยู่ในช่วงการลงทุนครั้งใหญ่ทั้งในส่วนของบุคลากรและสำนักงานเพื่อรองรับธุรกิจทีวีดิจิทัล อีกทั้งยังมีการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของบริษัทในเครือตามแผนธุรกิจ จึงส่งผลให้งบการเงินรวมขาดทุน ส่วนรายได้รวมในไตรมาสแรกปีนี้ 455.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันปีที่แล้ว ที่มีรายได้รวม 411.3 ล้านบาท โดยธุรกิจที่เติบโตอย่างมากคือธุรกิจรับจ้างจัดงาน ในขณะที่รายได้จากธุรกิจรายการโทรทัศน์ปรับตัวลดลง สอดคล้องกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ และการชะลอตัวของค่าใช้จ่ายในการซื้อสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ไตรมาสแรกปีนี้ ลดลง 7% สาเหตุของการชะลอตัวมาจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองภายในประเทศ นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลงอีก 34% เหลือ 275 ล้านบาทเพื่อสะท้อนเป้ารายได้ปีนี้ ที่ลดลงต่ำกว่าคาด และปรับประมาณการรายได้รวมปีลงอีก 14% เหลือ 2.4 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนรายได้โฆษณาในช่องฟรีทีวีที่มีแนวโน้มลดลงในปีนี้จาก 1.8 พันล้านบาท เหลือ 1.4 พันล้านบาท ฝ่ายวิจัยปรับลดการประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ เนื่องจากรายได้โฆษณาผ่านช่องฟรีทีวีมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าคาด ซึ่งยังไม่คำนวณผลกระทบจากธุรกิจทีวีดิจิทัลเข้าไปในการประมาณการ เนื่องจากความไม่แน่นอนในแง่ของฐานจำนวนผู้ชมและการประมาณการรายได้ ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) ตั้งเป้ารายได้ปี 2557 ที่ 2.8 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน ประกอบด้วยรายได้โฆษณาจากช่องฟรีทีวี 1.3 พันล้านบาท รายได้จากช่องทีวีดิจิทัลบวกกับช่องทีวีดาวเทียมสองช่อง 1 พันล้านบาท รายได้จากอีเวนท์และคอนเสิร์ต 450 ล้านบาท และอื่นๆ 50 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิสำหรับปี 2557 ที่ 10-11% ขณะเดียวกัน บริษัทวางเป้าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธุรกิจทีวีดิจิทัลที่ 600 ล้านบาท โดย 74% เป็นต้นทุนการผลิต และงบลงทุนทีวีดิจิทัลที่ 90 ล้านบาท โดย 50% เป็นต้นทุนค่าสิทธิคอนเทนท์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและส่วนที่เหลือเป็นต้นทุนค่าอุปกรณ์สำหรับการออกอากาศ นักวิเคราะห์กล่าวอีกว่า รายได้ทีวีดิจิทัลที่บริษัทวางเป้าไว้สูงเกินไป เนื่องจากปัจจัยเรื่องการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัว และการแข่งขันแย่งเม็ดเงินโฆษณาที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น จากจำนวนช่องทีวีดิจิทัลช่องใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นอีก 24 ช่อง Tags : เวิร์คพอยท์ • ขาดทุน • ทีวีดิจิตอล