เบนท์ลีย์-จากัวร์เปิดเกมรุกตลาดรถหรู

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดรถยนต์มีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวหลายรุ่นจาก 2 ยี่ห้อ และเป็นยี่ห้อหรูทั้งสิ้น

ตลาดรถหรูตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ถือว่าในเกณฑ์ดี สวนทางกับตลาดรวม ตลาดรถทั่วไปหรือแมส (mass) ที่ถดถอยค่อนข้างรุนแรง แต่กลุ่มรถหรูยังคงเติบโตตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน เป็นการสะท้อนได้ดีว่า ช่วงปีที่ผ่านมา คนกลุ่มไหนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมไปถึงนโยบายประชานิยมหลายๆอย่างที่ทำให้คนใช้เงินไม่เป็นธรรมชาติ และตลาดไม่สะท้อนภาวะที่แท้จริง รวมถึงรถยนต์

และตั้งแต่ต้นปีความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถหรูก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเป็นโรลสรอยซ์ แอสตัน มาร์ติน ปอร์เช่ จนถึงสัปดาห์แล้วกับเบนท์ลีย์ และจากัวร์

เบนท์ลีย์นั้นเปิดตัวรถ 2 รุ่นย่อยในตระกูล คอนติเนนทอล จีที คือ วี8 เอส หรือแบบคูเป้ และ วี8 เอส คอนเวอร์ติเบิล หรือแบบเปิดประทุน ซึ่งทั้ง 2 รุ่นเปิดตัวในตลาดโลกไปในงาน แฟรงก์เฟิร์ต ออโต้โชว์ เยอรมนี ครั้งที่ผ่านมา

ทั้ง 2 รุ่น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทวิน เทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 521 แรงม้าที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 680 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,700 รอบ/นาที ซึ่งสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิม และทำให้คูเป้ มีอัตราเร่ง 0 - 100 ก.ม./ชม. 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 309 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วน รุ่นเปิดประทุนมีอัตราเร่ง 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 308 กม./ชม.

โวล์ฟกัง ชเรเบอร์ ประธานกรรมการและบริหารของเบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ กล่าวว่า รถทั้ง 2 รุ่น ปรับปรุงให้มีกำลังเครื่องยนต์และแรงบิดที่เพิ่มมากขึ้น ช่วงล่างเน้นในเรื่องของความคล่องตัว แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา

ความคล่องตัวของมันยังมากับการปรับช่วงล่างใหม่เพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น และหากผู้ขับเลือกโหมดสปอร์ต ความสูงของตัวถังจะต่ำลงมา 10 มม. ค่าความแข็ง-อ่อนคงที่ของสปริงที่จะยุบตัวเป็นสัดส่วนตามน้ำหนักที่กดทับและบาร์ป้องกัน (Anti-roll bar) ทางด้านหลังจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เบนท์ลี่ย์ยังตั้งค่าช็อก แอบซอร์เบอร์ พวงมาลัย, และระบบช่วยเหลือการทรงตัว ให้สอดคล้องกับการใช้งาน

ตัวช่วยเรื่องการทรงตัวยังอยู่ที่ครีบด้านข้างและครีบกระจายอากาศด้านหลัง

ล้อขนาด 20 นิ้ว ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ต ควบคู่ไปกับเบรกคาลิปเปอร์สีแดง และปลายท่อไอเสียรูปแบบใหม่

ภายในออกแบบให้เป็นสีทูโทน และแน่นอนรถระดับนี้ก็ต้องมีอะไรพิเศษให้ลูกค้า นั่นคือ สีขอบตกแต่งลูกค้าเลือกได้ 17 สี รุ่นคูเป้ยังมีเส้นขอบตัดภายในที่ตัดกับเส้นลายหลังคา และยังมีส่วนที่ตกแต่งด้วยลายไม้เปียโน แบล็ก

ทางด้าน จากัวร์ ก็ได้เวลาส่ง เอฟ-ไทป์ คูเป้ ลงมาล่อคนกระเป๋าหนัก ด้วยรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน รวมถึงการพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าเป็นตัวถังอะลูมิเนียมและเพิ่มความหรูหราและเอกลักษณ์ด้วย หลังคากระจกพานอรามิก หรือเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ V8 ขนาด 5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-97 กม./ชม. 4 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 300 กม./ชม.สำหรับรุ่นย่อย อาร์ คูเป้ ค่าตัว 11.25 ล้านบาท

ส่วน เอฟ-ไทป์ เอส คูเป้ เครื่องยนต์เบนซิน ซูเปอร์ชาร์จ วี 6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 380 แรงม้า แรงบิด 460 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-97 กม./ชม. 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 275 กม./ชม. ราคา 8.89 ล้านบาท และอีกรุ่นคือ เอฟ-ไทป์ คูเป้ เครื่องขนาดเดียวกับ เอส แต่แรงลดเหลือ 340 แรงม้า 0-97กม./ชม. 5.1 วินาที ik8k7.999 ล้านบาท

สำหรับเอฟ-ไทป์ คูเป้ หากใครเคยไปเดินในงานแฟรงก์เฟิร์ต ออโต้โชว์ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว คงจะพอนึกภาพออกถึงรถต้นแบบตัวเด่น เพราะมันเปลี่ยนภาพของจากัวร์จากที่เคยเข้าใจไปเลย นั่นก็คือ ซี-เอ็กซ์ 16 ที่กวาดรางวัลระดับโลกในงานดังกล่าวไปครองด้วย และวันนี้มันถูกต่อยอดมาเป็น เอฟ-ไทป์คันที่เพิ่งเปิดตัวในไทยไปนั่นเอง

โครงสร้างของเอฟไทป์ ผลิตจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว โดยใช้เทคโนโลยีการบีบอัดขั้นสูง ซึ่งจากัวร์บอกว่าช่วยให้มันทนต่อแรงบิดได้สูง และแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จากัวร์เคยผลิตมา นอกจากนี้เทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์อื่นๆ ยังทำให้ช่วยลดน้ำหนักตัวรถได้มาก

Tags : ยานยนต์ • เบนท์ลีย์ • จากัวร์ • ตลาดรถหรู