แม้ว่า Oculus จะประกาศมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะพร้อมขายแว่นตา Oculus Rift รุ่นจริงภายในครึ่งปีแรกนี้ และน่าจะมีมาโชว์ตัวในงาน CES 2016 เป็นจำนวนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการก็ยังมองว่าตลาด VR ในปี 2016 ยังจะไม่เติบโตพรวดพราดนัก ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ ความเห็นดังกล่าวมาจาก Jason Pual ผู้จัดการทั่้วไปของ NVIDIA แผนก VR และ Shield ซึ่งสัมภาษณ์โดย GamesBeat ซึ่งพูดถึงทิศทางที่น่าสนใจของวงการ VR ไว้หลายเรื่องดังนี้ ผู้คนทั่วไปนิยมเล่นเกมกันที่ความละเอียด 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาทีขึ้นไป แต่เมื่อจะเล่นแบบ VR แล้ว ความละเอียดจะเพิ่มขึ้นไปเป็น 3K! (3024x1680 พิกเซล) และยังต้องได้ระดับ 90 เฟรมต่อวินาที นับในแง่ของพลังประมวลผลอย่างเดียวก็สูงกว่าปัจจุบันถึง 7 เท่าตัวไปแล้ว! ทางออกของ NVIDIA คือการทำการ์ดจอที่แรงขึ้น และออก SDK ชื่อว่า Gameworks VR เพื่อรีดประสิทธิภาพให้ได้มากกว่าเดิม จากจำนวนพีซีทั้งหมด จะมีเครื่องที่ใช้งาน VR ได้ราว 13 ล้านเครื่อง โดย NVIDIA มีแผนจะเพิ่มเป็น 25 ล้านเครื่องในปี 2016 คำแนะนำสำหรับ Pual สำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมความพร้อม ขั้นต่ำต้องใช้การ์ดจอรุ่นรองท็อปอย่าง GeForce GTX 970 รวมๆ กับอุปกรณ์อื่นๆ จะค่าตัวประมาณ 1,000 เหรียญ ส่วนการใช้งาน VR บนโน้ตบุ๊กก็เป็นไปได้เช่นกัน แต่จะจำกัดกับรุ่นใหญ่สเปคแรงๆ เท่านั้น สำหรับคู่แข่งในตลาด VR ตอนนี้นอกจาก Oculus และ HTC Vive ที่แชร์ตลาดพีซีร่วมกันแล้ว ฝั่ง Sony เองก็มี PlayStation VR ซึ่งใช้งานได้กับเครื่อง PS4 ที่ตอนนี้มียอดขายมากกว่า 30 ล้านเครื่อง แต่ยังไม่ประกาศราคาของแว่นตาออกมา ที่มา - VentureBeat Games, NVIDIA, Oculus, PC, Virtual Reality