"แบงก์ออมสิน"รุกปล่อยกู้รายใหญ่70%ชี้ศักยภาพคืนหนี้รายย่อยถดถอย นายธัชพล กาญจนกูล รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับแผนการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ใหม่ โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่มากขึ้นหรือมีสัดส่วนประมาณ 70% ส่วนที่เหลือจะเป็นรายย่อย จากเดิมที่สัดส่วนรายย่อยจะมีมากกว่ารายใหญ่ หรือมีสัดส่วนมากกว่า 70% "สาเหตุสำคัญที่ต้องปรับแผนการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว คือ ขณะนี้ความต้องการสินเชื่อของลูกค้ารายย่อยมีจำนวนที่ลดลง ขณะเดียวกัน ธนาคารก็เพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น เพราะกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้" ก่อนหน้านี้ ธนาคารได้ปรับลดเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อลง จากเดิมที่มีเป้าหมายขยายตัว 7% เป็น 4.5% จากสินเชื่อคงค้างในปีก่อน ส่งผลให้จำนวนยอดสินเชื่อใหม่จะอยู่ที่ 7-8 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้ จะเป็นสินเชื่อรายใหญ่ประมาณ 70% ซึ่งขณะนี้ ธนาคารก็มีเป้าหมายลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่อยู่แล้ว "ที่เราต้องปรับแผนการปล่อยสินเชื่อ จากเดิมที่เน้นรายย่อยเปลี่ยนมาเป็นรายใหญ่ให้มากขึ้น เพราะเรากังวลเกี่ยวกับหนี้สินครัวเรือนของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียว เราเล็งเห็นว่า การขอสินเชื่อของลูกค้ารายย่อยลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ฉะนั้นเพื่อให้เป้าหมายสินเชื่อของธนาคารเป็นไปตามแผน เราจึงหันมาเน้นรายใหญ่ให้มากขึ้น"เขากล่าว สำหรับผลการดำเนินงานของธนาคารในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้นั้น เขากล่าวว่า เป็นไปตามเป้าหมายในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการปล่อยสินเชื่อ ด้านเงินฝาก และ การแก้ไขปัญหาหนี้เสีย ซึ่งผลให้ภาพรวมของอัตรากำไร อยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ดี ตัวเลขของผลประกอบการทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องรายงานให้คณะกรรมการของธนาคารรับทราบก่อนที่จะเปิดเผยออกไป ทั้งนี้ ในแง่ของการแก้ไขปัญหาหนี้เสียนั้น หลังจากที่ธนาคารได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแลหนี้เสียผ่านแผนการปฏิบัติงานเชิงบูรณาการ ได้ทำให้สัดส่วนหนี้เสียทยอยลดลง ทำให้ระดับการกันสำรองลดลงตามไปด้วย ซึ่งที่สุดแล้ว ก็จะส่งให้ผลกำไรของธนาคารดีขึ้นตามไปด้วย "ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการที่กำกับหนี้เสียได้มอบหมายให้ฝ่ายปรับโครงสร้างหนี้เข้าไปดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนของลูกค้ารายย่อย ก็ช่วยควบคุมระดับหนี้เสียให้อยู่ในเกณฑ์ดี โดยภาพรวมแล้วหนี้เสียของธนาคารในปีนี้น่าจะอยู่ในระดับไม่เกิน 1.3%"เขากล่าว รักษาการผอ.ออมสินกล่าวด้วยว่า หลังสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย ซึ่งตนเชื่อว่า จะสามารถคลี่คลายได้ในระยะอันใกล้นี้ โดยหลังจากการเมืองคลี่คลายแล้ว เศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งรวมถึง การขายตัวของสินเชื่อเช่นกัน เพราะขณะนี้ การส่งออกก็ยังสามารถขยายตัวได้ ส่วนการลงทุนนั้น แม้ว่า ขณะนี้ ภาพรวมชะลอ แต่หากการเมืองคลี่คลาย ภาครัฐเริ่มจะลงทุน ภาคเอกชนก็พร้อมที่จะลงทุนในทันที "ขณะนี้ หลายค่ายมองเศรษฐกิจปีนี้โต 2% กว่าๆ แต่หากการเมืองคลี่คลายเร็ว เศรษฐกิจอาจจะพลิกมาขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะโตได้ถึง 4.5%ก็ได้"เขากล่าว Tags : ธัชพล การญจนกูล • ออมสิน • ปล่อยเงินกู้ • หนี้รายย่อย