นพพร ผู้อำนวยการสร้างหนังศรีธนญชัย 555+ ปัดโดดตึกสร้างกระแส แจงงบบานปลายกว่า 20 ล้าน ลั่นมีหลักฐาน แต่ไม่ขอฟ้องร้อง วอนอยากให้เรื่องจบ หลังจากมีกระแส นพพร อินทรสวัสดิ์ นายทุนหนังศรีธนญชัย 555+ เครียดหนังขาดทุน 40 ล้านจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ตามด้วยการออกมาพูดของ นายสุรชัย เที่ยงธรรม ผู้จัดการฝ่ายผลิต ออกมาโพสต์ตัวเลขหนังเจ๊ง 40 ล้านเอามาจากไหน พร้อมกับถามกลับว่าเป็นการสร้างกระแสหรือไม่ ล่าสุด นพพร นายทุนได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบการบันทึกรายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 2 สตาร์แม็กซ์ และเปิดใจแบบหมดเปลือก ช่วยชี้แจงเรื่องเงินลงทุนที่อีกฝ่ายอ้างว่าไม่ถึง 40ล้านบาท อย่างที่เราเคยพูดให้ฟังหน่อย ? "งบลงทุนประมาณ 20ล้านครับ นอกนั้นเป็นดอกที่เพิ่มขึ้นจากการขายฝากบ้าน เพราะที่ดินมันมีจำนวน 3-4 แปลงกับบ้านอีก 3-4 หลัง" ตอนแรกตั้งงบไว้เท่าไหร่ ? "ตั้งไว้ 5ล้านครับ แต่เราก็คุยกันแล้วว่ามันอาจจะมีบานปลายถึง 8 ล้าน ซึ่งผมก็เชื่อ จนสุดท้ายผลที่ออกมามันไม่ใช่ และตัวผมเองก็ไม่รู้ด้วยว่ารายละเอียดในส่วนที่บานปลายมันคือตรงไหนเพราะผมไม่ค่อยได้เข้าไปเลย แต่ว่าเราก็มีเอกสารอยู่ครับ" วันนี้สิ่งที่ออกมาชี้แจงเราคาดหวังอะไรไหม ? "ผมแค่อยากให้คนเข้าใจว่าสิ่งที่คุณสุรชัยทำมันไม่ถูกต้องและมันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอนาคตของผมและครอบครับของผม เพราะตอนนี้ทุกคนเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคนตั้งคำถามเราเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนลูกสาวผมร้องไห้ไม่หยุด (ร้องไห้) ผมสงสารแกครับ" สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ? "พอมาเจอเรื่องแบบนี้มันก็แย่ลงอีกครั้งครับ" ตอนได้ฟังคำชี้แจงของอีกฝ่ายครั้งแรกรู้สึกยังไงบ้าง ? "รู้สึกว่าเขารู้ไม่จริงเลยครับกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบริษัทเพราะเขาเข้ามาทีหลัง และจนถึง ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าเขามีหน้าที่อะไรในกองถ่าย ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าเงินน้อยนิดมูลค่า 80,000 บาท ที่เป็นค่าตัวเขา ผมอยากถามกลับครับว่ามันน้อยนิดตรงไหน เขาถึงได้กล้าพูดแบบนี้" หนี้ที่เกิดขึ้นนับจากนี้พี่จะทำยังไงต่อไป ? "ก็จะพยายามแก้ไขกันไปครับ จากญาติพี่น้องและผู้ใหญ่หลาย ๆ ฝ่าย" จะมีการฟ้องร้องให้เป็นเรื่องเป็นราวไหม ? "ผมไม่อยากให้มันบานปลายไปมากกว่านี้แล้วครับ เพราะผมอยากให้เรื่องมันจบ" ไม่อยากให้เขาออกมารับผิดชอบกับการกระทำที่เขาพูดบ้างเหรอ ? "ผมคิดว่าเขาก็รู้อยู่แล้วครับว่าสิ่งที่เขาพูดมันไม่เป็นความจริง เพราะผมเองก็ยังสงสัยเหมือนกันว่าเขาพูดออกมาได้ยังไงทั้ง ๆ ที่เขาไมได้รู้อะไรเลย" ที่เราออกมาวันนี้เราต้องการอะไร ? "ผมไม่ได้ต้องการอะไรเลยครับ ผมแค่ต้องการความยุติธรรมจากสังคมที่เขามองว่าบริษัทออมทูจัดฉากเพื่อให้คนเข้าใจผิด" ทางบริษัทได้มีการติดต่ออะไรไปหาทางฝั่งนั้นบ้างไหม ? "เคยโทรไปครับแต่เขาปิดมือถือตั้งแต่วันที่ 3 ก็เลยทำให้ติดต่อไม่ได้ จนเมื่อเรื่องนี้มันเป็นปัญหาเขาก็เริ่มเปิดมือถืออีกครั้งเพื่อเหมือนจะมาแก้ตัว แต่ว่าทางผมก็ไม่รับสายแล้วครับ เพราะเราคุยกันไม่รู้เรื่อง" ก่อนที่หนังจะฉายเคยคิดไหมว่าหนังอาจจะไม่ได้ทำเงินมากตามเป้าที่วางไว้ ? "ผมพยายามทุ่มเทกับหนังเรื่องนี้เต็มที่ครับเพราะเราใส่ไปทั้งชีวิต เลยทำให้คาดหวังกับผลตอบรับที่ออกมาพอสมควร" กลัวไหมว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้ส่งผลกระทบกับการทำหนังเรื่องต่อไป ? "ก็คงต้องดูจากปัญหาเรื่องนี้ก่อนครับว่าเราจะแก้ปัญหาได้ไหม" ณ ตอนนี้ทางแก้ปัญหาเรื่องเงินจะทำยังไงบ้าง ? "เราก็ใช้วิธีจัดจำหน่าย DVD เป็นอีกช่องทางครับ ซึ่งให้คนที่ต้องการชมติดต่อจองได้ผ่านทางบริษัทออมทู" กังวลไหมว่าการทำดีวีดีจะยิ่งส่งผลให้งบบานปลายมากยิ่งขึ้น ? "คือมันเป็นหนทางเดียวครับที่จะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของเราได้ ซึ่งมันอาจจะได้น้อยก็ไม่เป็นไร แต่ก็ขอให้ได้บ้าง" อยากบอกอะไรกับคนที่เขาเข้าใจในตัวเราผิดบ้างไหม ? "ผมไม่อยากพาดพิงถึงเขานะครับ แต่ผมเชื่อว่าเขาคงรู้ตัวอยู่แล้วแหละว่าทำอะไรลงไป และผมอยากให้สังคมเป็นตัวตัดสินเรื่องนี้ด้วยว่าใครผิดและใครถูก" ด้าน พีอาร์บริษัท นายเดชารัตน์ จิตตะพิทยากุล และ นางพิมพ์ชนา พิมพ์สุรโสภณ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงกระแสข่าวที่มีการกล่าวอ้างว่า นายนพพร อินทรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ สร้างกระแสด้วยการเชิญสื่อมวลชนทำข่าวกระโดดตึกฆ่าตัวตายว่า นายเดชารัตน์ - "เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เหตุการณ์เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องเรียกพีอาร์หรือนักข่าวมาร่วมในเหตุการณ์นั้นผมจะได้แม่น้องแม็คช่วยชี้แจงเพิ่มเติมครับ เนื่องจากเขาเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์" นางพิมพ์ชนา - "จริง ๆ สายแรกที่พี่โทรหาคือสามีพี่ เพราะตอนนั้นมันเที่ยงคืนกว่าแต่ก็ไม่มีคนรับ พี่ก็เลยโทรหาพี่เดย์ซึ่งเป็นพีอาร์พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้เขาฟังแต่เขาก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ แล้วแบตมือถือพี่ก็จะหมดพี่เลยวิ่งไปขอความช่วยเหลือร้านค้าข้างล่างให้เขาช่วยหาเบอร์โทรร่วมกตัญญู หาเบอร์โทรหนังสือพิมพ์ให้ เพราะพี่ต้องการเบาะเซฟชีวิตคน ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีสื่อไหนมาเลยด้วยซ้ำ แล้วถ้าเราต้องการสร้างกระแสจริงทำไมเราไม่อยู่รอให้สื่อมาพร้อมกันก่อนคะ" เพราะอะไรตอนนั้นเราถึงเรียกสื่อแทนที่จะเรียกตำรวจ ? นางพิมพ์ชนา - "พี่เรียกค่ะ ตำรวจพี่ก็โทรแจ้ง" ด้วยความที่เราเรียกสื่อหรือเปล่าเลยอาจทำให้อีกฝั่งเขาคิดไปในทิศทางนั้นได้ ? นายเดชารัตน์ - เขามโนจิตมากกว่าครับ เพราะเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ อีกอย่างสื่อที่มาวันนั้นก็ไม่ใช่สื่อบันเทิงด้วยซ้ำ"