ประธานสภาพัฒนาการเมือง เห็นควรให้ ประยุทธ์ เป็นนายก พร้อมควรเร่งดำเนินการปฏิรูปประเทศ ยกเลิก หรือออกกฎหมายที่รัฐบาลปกติทำไม่ได้ นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง กล่าวในงานเสวนายกเครื่องประเทศไทย โจทย์ใหญ่ปฏิรูปประเทศ ว่า หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 82 ปี ประเทศไทยประสบปัญหามากมาย ซึ่งปัจจุบัน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถือเป็นองค์อัฐาธิปัตย์ที่เข้ามามีอำนาจ จึงเห็นว่า คสช. ต้องเข้าใจถึงอำนาจของตัวเอง ทั้งอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ อย่างน้อยในช่วงระยะเวลา 3 เดือนนี้ ควรจะออกกฎหมาย หรือยกเลิกกฎหมายบางฉบับ ซึ่งหาก คสช. ไม่ดำเนินการก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะยึดครองอำนาจตรงนี้ไป ไม่ใช่เพียงการดำเนินการจัดระเบียบรถตู้ รถจักรยานยนต์รับจ้าง จึงอยากเห็นความกล้าตัดสินใจของ คสช. ที่ในเวลาปกติรัฐบาลอื่นตัดสินใจทำได้ยาก โดยเฉพาะแนวทางการแก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน เช่น การศึกษาที่ควรแยกออกจากระบบของการบริหารของคณะรัฐมนตรี การทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ยังไม่มีรัฐบาลชุดใดดำเนินการอย่างจริงจัง นอกจากนี้ เห็นว่าการปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นควรผ่านสภาพลเมือง ทั้งนี้ ขอให้ คสช. แก้ปัญหาให้ถูกต้องตรงจุด เพราะผู้นำไม่ต้องทำทุกเรื่อง แต่ต้องทำให้ถูกเรื่อง นายธีรภัทร์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ไม่จำเป็นจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เห็นว่าควรจะเป็น เพราะจากประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมา ผู้ที่ยึดอำนาจแล้วให้คนอื่นเป็น การบริหารประเทศต่อจากนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ พร้อมทั้งได้ให้กำลังใจ คสช. ในการทำงาน ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ หรือแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ล้วนมีส่วนที่จะพัฒนาประชาธิปไตยทั้งสิ้น