"เอสวีไอ"เดินหน้าเจรจาพันธมิตรใหม่3รายเดือนหน้าคาดได้ข้อสรุปในไตรมาส 4เตรียมงบลงทุน100ล้านดอลลาร์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผู้บริหารบริษัท เอสวีไอ (SVI) ได้ให้ข้อมูลระหว่างการเข้าเยี่ยมชมโรงงานว่า บริษัทจะมีการเจรจากับพันธมิตรใหม่ 3 ราย ในเดือนก.ค.นี้ หลังจากเจรจาในช่วงก่อนหน้านี้ไม่บรรลุผล เพราะข้อตกลงในการซื้อสูงเกินไป ผู้บริหารคาดว่าจะทราบผลการเจรจาซื้อกิจการว่าสำเร็จหรือไม่ในไตรมาส 4 ปีนี้ แต่กว่าจะดำเนินการเข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จ จะใช้เวลา 12 เดือน เบื้องต้นบริษัทคาดการณ์เงินลงทุนที่ 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน โดยธุรกิจที่บริษัทสนใจเข้าซื้อกิจการคือธุรกิจในกลุ่มเกี่ยวกับการแพทย์ หรือที่มีเทคโนโลยีสูง เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และการแข่งขันด้านราคาที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมอื่น นักวิเคราะห์รายเดิมกล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้คาดว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 10% จากการทยอยผลิตมากขึ้นจากลูกค้าเดิม ขณะที่ลูกค้าใหม่ยอดคำสั่งซื้อจะทยอยเพิ่มขึ้นตามลำดับ อีกทั้งคาดว่าในไตรมาสนี้จะรับรู้เงินประกันน้ำท่วมจากสินทรัพย์ที่ขอเคลมไปอีกราว 100 ล้านบาทเข้ามา อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาส่งผลให้การมาตรวจโรงงานของลูกค้าใหม่ทำได้ยากขึ้น แม้ปัจจุบันปัญหาการเมืองได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่จากการที่ไทยยังไม่มีรัฐบาลและอยู่ภายใต้การปกครองโดยทหาร ส่งผลต่อคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ให้ล่าช้ากว่าที่เคยคาดไว้ ทั้งนี้ ผู้บริหารได้ให้ข้อมูลว่า ยอดขายปีนี้จะเติบโตประมาณ 23% จากปีที่แล้ว ความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากลูกค้าใหม่ทำให้ฝ่ายวิจัยกังวลว่า อาจจะไม่เป็นตามคาด จึงปรับยอดขายเหลือเพียง 311 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 19% แต่จากเงินบาทที่อ่อนค่าประกอบกับการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้น จึงประมาณการกำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษจะเพิ่มขึ้น 28% อยู่ที่ 808 ล้านบาท บล.บัวหลวง กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยมีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2558 อย่างมีนัยสำคัญ จากการที่บริษัทกำลังเจรจากับลูกค้า 2 ราย เพื่อส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ โดยผู้บริหารคาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปในเดือนส.ค.2557 หากได้ข้อสรุปตามที่ตกลงไว้ ทางบริษัทจะต้องปรับปรุงโรงงานเพื่อรองรับสายการผลิตดังกล่าว และคาดการณ์ยอดขายจากทั้ง 2 ราย จะอยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส และในระยะยาวอาจจะสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งคิดเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2557 ที่ 3% และต่อประมาณการกำไรปี 2558 ที่ 24% บล.บัวหลวง ได้ปรับเพิ่มกำไรสุทธิปี 2557 ขึ้น 11% จาก 967 ล้านบาท เป็น 1,069 ล้านบาท เพื่อสะท้อนรายได้จากเงินชดเชยประกันสินทรัพย์เสียหาย ที่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งจ่ายในช่วงไตรมาส 2/2557 นอกจากนี้ บริษัทยังประเมินว่าบริษัทมีแนวโน้มจะได้รับเงินชดเชยอีก 200 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 รายได้จากเงินชดเชยประกันสินทรัพย์เสียหายจะหนุนสถานะทางการเงินของบริษัทให้สูงขึ้น ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าบริษัทมีโอกาสจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในเดือนส.ค. ที่ 0.08-0.09 บาท นอกจากนี้ ผู้บริหารบริษัทยังอยู่ระหว่างการมองบริษัทที่มีศักยภาพ 3 แห่งในสหรัฐ และในยุโรป ซึ่งจะสรุปความคืบหน้าการเจรจาในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยบริษัทได้ให้ข้อมูลว่าบริษัทที่มีความสนใจจะเข้าซื้อเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวเนื่องกับการแพทย์ ที่มีรายได้อยู่ในช่วง 180-200 ล้านดอลลาร์ ถ้าหากได้ข้อสรุปแล้ว ฝ่ายวิจัยคาดว่าสัดส่วนสินค้าที่เกี่ยวกับการแพทย์ของบริษัทจะสูงขึ้นประมาณ 20% ของยอดขายรวมทั้งหมด และอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 15-17% เทียบกับอัตรากำไรขั้นต้นในปัจจุบันที่อยู่ระหว่าง 11-12% การเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เอสวีไอ (SVI) วานนี้ (24 มิ.ย.) ปิดการซื้อขายที่ 4.40 ลดลง 0.10 บาท หรือ 2.22% มูลค่าการซื้อขาย 87.8 ล้านบาท ขณะที่การเคลื่อนไหวราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี -ปัจจุบัน เคยทำราคาสูงสุดที่ 4.58 บาท เมื่อวันที่ 7 มี.ค. และต่ำสุดที่ 3.82 บาท เมื่อ 6 ม.ค. Tags : เอสวีไอ • บล.ฟิลลิป • ซื้อกิจการ