วันที่ 24 มิ.ย. ที่บริเวณวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อำเภอเมืองพิจิตร นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย พ.อ.สุพจน์ บูรณะจารี รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ (กกล.รส.จทบ.พ.ช.) และสำนักงานพระพุทธศาสนา วัดท่าหลวง ร่วมจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม รักษาศีลห้า สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยได้เชิญอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิจิตรทุกคนทุกพรรคการเมือง ประกอบไปด้วย นายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรค ปชป. นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองเลขาธิการพรรค ปชป. นางสาวสุณีย์ เหลืองวิจิตร พรรคเพื่อไทย นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ พรรคชาติไทยพัฒนา นายนราพัฒน์ แก้วทอง พรรคประชาธิปัตย์ และรวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่น คู่ขัดแย้ง ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียนนักศึกษา ร่วมฟังการบรรยายธรรม จากพระราชสุตาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 4 เลขานุการสมเด็จพระมหารัชคลาจารย์เจ้าคณะใหญ่หน เหนือ บรรยายธรรมในหัวข้อ "ศีลห้ากับการสมานฉันท์ของคนในชาติ" โดยมีวัตถุประสงค์ให้ นักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ได้นำศีลห้า และหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า นำไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน จะก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความสงบสุขของประชาชนในชาติ จาก นั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้ร่วมพิธี "ดื่มน้ำสัจจะอธิฐาน" ว่าจะปรองดองสมานฉันท์โดยมีพระสงฆ์เจริญคงคลคาถา และร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณปรองดองสมานฉันท์ ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ รับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าวัด ทำบุญ รักษาศีล ฟังธรรม นำหลักธรรมศีลห้าไปใช้ดำรงชีวิตเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนจังหวัด พิจิตร ด้านนายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับ คสช. ที่ออกมาทำให้บ้านเมืองสงบสุข เพราะว่าที่ผ่านมาสถานการณ์บ้านเมืองประเทศไทยต้องยอมรับว่าไม่มีทางออก ดังนั้นอยากให้นึกถึงประเทศชาติผลประโยชน์บ้านเมืองมาเป็นหลัก เพราะว่าประเทศไทยที่ผ่านมา มีแต่ความสงบสุขร่มเย็น ซึ่งสยามเมืองยิ้มในประเทศไทยหายมานานแล้วซึ่งขณะนี้เริ่มจะกลับมาแล้ว นางสาวสุนีย์ เหลืองวิจิตร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องที่ดีที่พวกเราได้มาร่วมมือกันปองดองสมานฉันท์ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราในฐานะ อดีตนักการเมืองคุยกันหรือไม่ทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะ สส. ในพื้นที่ จังหวัดพิจิตร พวกเราอาจจะแข่งขันกันในการเลือกตั้งในค่ายเท่านั้น แต่ในส่วนตัวพวกเราคุยกันตลอด ไม่มีการขัดแย้งกันเพียงแต่พวกเราการเมืองคนละขั้วเท่านั้น ในส่วนตัวพวกเราก็รักกันนับถือกัน ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายควรจะให้ความร่วมมือกับ คสช. ถ้าเราอยากให้บ้านเมืองเราเดินไปได้ ไม่อยากให้มองว่าเป็นฝ่ายใด แต่เมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้วควรร่วมมือกัน ทำให้บ้านเมืองกลับมาเดินหน้าไปด้วยดี