''สตรีเหล็ก'' ภาพยนตร์ไทยตลกที่สร้างจากเรื่องจริงของทีมวอลเลย์บอลชายที่ผู้เล่นทั้งทีมเป็นกะเทย ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าประสบความสำเร็จด้านรายได้เป็นอย่างดีทำรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยล้าน และยังเป็น Box Office ในต่างประเทศ จนกระทั่งยังเกิดกระแสการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาและเกี่ยวกับเพศที่สามตามมาอีกหลายๆ สัปดาห์นี้ทีมข่าว Exclusive Talk คนบันเทิง มีโอกาสได้พบกับ "โกโก้ กกกร เบญจาธิกูล'' ผู้ที่รับบท ''เปีย" และเป็นหนึ่งในนักแสดงยุคนั้นที่เคยมีประเด็นที่ว่าเธอนั้นคือ ''หญิงแท้'' หรือ ''หญิงเทียม'' กันแน่? และวันนี้เวลาได้ล่วงเลยไปกว่า 15 ปีโกโก้จะมีความทรงจำอะไรดีๆ กับช่วงชีวิตที่เคยโด่งดัง และชีวิตปัจจุบันนั้นเธอหายหน้าหายตาไปทำอะไร และพลาดไม่ได้กับประเด็นหัวใจกับหนุ่มคนพิเศษที่คบหากันมากว่า 15 ปีเช่นกัน ที่เราล้วงลึกทุกคำตอบจนแฟนๆ ต้องหายคิดถึงอย่างแน่นอน ''สตรีเหล็ก'' ผลงานแห่งความภาคภูมิใจ "ใช่ค่ะ แล้วก็ไม่ใช่แค่ร้อยล้านในประเทศ ไปต่างประเทศก็ได้เป็น Box Office ในสัปดาห์แรกก็ติดอันดับหนึ่งใน Box Office ก็รู้สึกภูมิใจมากแล้วเราก็จะถูกเรียกไปร่วมงาน เชิญไปต่างประเทศไปร่วมงานนั่นนู่นนี่ แต่เราก็แบบ เอ๊ะ! ทำไมต้องเป็นเราตลอดเลย เขาก็บอกว่าในทั้งหมดมีเราเป็นผู้หญิงคนเดียว ก็คือเขาจะเลือกผู้ชายไปไม่ติ๊กไปก็โจ้ ไม่ก็หน่อง ไม่ก็ป๋อม แล้วมันต้องมีเราทุกครั้งก็อ๋อเราเป็นผู้หญิงตรงนี้ แต่พอไปถึงจริงๆ แล้ว พวกสื่อมวลชนต่างประเทศเขาจะสนใจตรงที่เราไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิงเรา Transfer มาเป็นแบบนี้ไงเขาก็เลยรู้สึกว่าคนนี้มันแปลกมันดูมีอะไร เขาก็มาสัมภาษณ์ มาคุยเราก็เลยอ๋อก็เข้าใจก็เลยมองว่า ตรงนี้มันจุดขายของเรานั่นแหละ เขาเรียกว่าเอาปมด้อยมาเป็นปมเด่นนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นก็ถือว่าโชคดี โชคดีหลายอย่าง มีความสุขทุกครั้งที่เขาเอามาฉายใหม่ ในเคเบิ้ลต่างๆ บางครั้งดูแล้วก็ขำ พอดูแล้วก็ทำให้เรานึกถึงว่า เฮ้ย!! ตอนนั้นทำอะไรหนังเรื่องนี้ไปฉายตรงนั้นตรงนี้นึกถึงวันวานเก่าๆ ค่ะ" ''โกโก้ สตรีเหล็ก'' 15 ปี ชื่อนี้ยังติดตัว ''มันก็กลายเป็นโลโก้ไปแล้วว่า เออนี้สตรีเหล็ก บางคนเห็นเป็นสาวประเภทสองเป็นกระเทยไปเลยอะไรแบบนี้เขาก็ใช้เรียกด้วยเหมือนกันมันเป็นเหมือนนามสกุลที่ลบออกบางคนที่ไม่ได้เจอะเจอหรือนานๆ มาเจอเค้าก็จะทักกันเรื่องนี้ขึ้นมาแต่ถ้าเกิดได้เจอกันบ่อยๆ เขาก็จำได้ว่าเล่นเรื่องนี้ มันสร้างชื่อจริงๆ ดีใจนะเขายังดูยังจำเราได้จะบอกว่าคือผลงานสตรีเหล็กเนี่ยเป็นผลงานที่ทำให้คนรู้จัก เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่เขาจะเรียกเราอย่างนี้ค่ะ'' มีความสุขมันเป็นอะไรที่เปลี่ยนจากอะไรที่เราเคยเป็นเลยนะ คือในเรื่องของการงาน ในเรื่องของอะไรมันส่งผลเหมือนกับว่าเรียกว่าอะไรดีเหมือนกับคนให้การต้อนรับมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เขาเรียกโกโก้สตรีเหล็กจะดีใจนะภูมิใจเขาจำเราได้แม้แต่ปัจจุบันที่เรามาทำงานขายโฆษณา ลูกค้าจำเราได้จากตรงนั้น เขาก็ Open ที่จะให้เราไปคุยทั้งๆ ที่เราจะไปขอเงินเขานะอะไรแบบนี้ เขาก็พร้อมที่จะให้ไปทำ'' ถามต่อถึงสิ่งที่ได้มาหลายอย่าง ทั้งชื่อเสียง เงินทอง และงานต่างๆ เธอบอกว่า ไม่เคยเหลิงและหลงไปกับมัน ''จำได้เลยว่าครั้งแรกที่ไปโชว์ตัวมันเป็นงานโปรโมทภาพยนตร์เนี่ยค่ะที่โรงภาพยนตร์แล้วคือคนดึงเราไว้ คือสมมติว่าเสร็จงานล่ะ เขาจะมาขอถ่ายรูปปกติเวลาแบบต้องไปล่ะทีมงานเขาจะเอาเราไป คนก็จะเกาะเราไว้เขาจะไม่ให้เราไป ดึงไว้ขอถ่ายรูปแบบนี้เราไม่เคยเจอไม่เคยรู้สึกแบบเฮ้ยแล้วยังไงต่อ แล้วโดยส่วนตัวเป็นคนค่อนข้างสันโดษไงจะไม่ค่อยเป็นคนเด่นดังไม่ใช่เราเลยเป็นคนธรรมดา งงๆ นะพอตอนหลังก็เริ่มปรับค่อยๆ รู้ ค่อยๆ เข้าใจ มันเป็นแบบนี้แต่ถามว่าตอนนั้นก็ดีอย่างนะไม่ได้เหลิง ไม่ได้เหลิงว่าฉันอะไรแบบนี้ไม่เหลิง ก็ยังทำงานตรงนี้ไปช่วงนั้นมันมีงานโชว์ตัวตลอด ทั้งเดือน ทั้งปี มีต่างประเทศด้วยก็รู้สึกดี รู้สึกสนุกจังเลย และตอนนั้นก็ดีอย่างนะไม่ได้เหลิง ไม่ได้เหลิงว่าฉันอะไรแบบนี้ ไม่เหลิง ก็ยังทำงานตรงนี้ไป ช่วงนั้นมันมีงานโชว์ตัวตลอด ทั้งเดือน ทั้งปี มีต่างประเทศด้วย ก็รู้สึกดีรู้สึกสนุกจังเลยแต่พอเวลาผ่านไปมันก็เป็นคลื่นลูกหนึ่ง มันก็ต้องจางไป แล้วก็เลยคิดที่จะเริ่มทำงานเราก็ไปดูลู่ทางว่าจะทำอะไรและตอนนั้นเจอพี่ทำงานที่เดียวกัน เขาถามโก้เป็นไงตอนนั้นยังไม่ทำภาค 2 พี่เขาก็ชวนว่าไปทำงานกับเขามาช่วยกันทำมาดูแล เราก็เอาสิๆ พอไปคุยกับเขาปรากฏว่าเขาจะทำภาค 2 พอจะทำภาค 2 เลยบอกพี่เขาว่าจะทำภาค 2 อีกเลยบอกพี่เขาไปว่าไม่ต้องรอโก้ดีกว่า ถ้าเกิดสมมติตำแหน่งมันยังว่างอยู่ แล้วพี่ยังอยากให้โก้ทำ หลังจากนี้แล้วโก้จะเข้าไปคุยถ้ามันมีโก้ก็กลับไปทำ ปรากฏทำภาค 2 มามันก็ยังมีงานต่อเนื่องมาอีกพอเป็นช่วงเสร็จทำภาคสองเนี่ยค่ะ มันเป็นช่วงที่เรากับแฟนอยากทำอยากทำธุรกิจมีคนมาเสนอ ก็เลยทำบริษัทพอทำบริษัทแต่ว่าบริษัทไม่ประสบความสำเร็จเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมันมีนู่นนี่ มีอะไรต่างๆ นานา พอไม่ประสบความสำเร็จแล้วเราก็ต้องไปทำงานก็พี่มีแนะนำไปทำอยู่ที่หนึ่งเป็นหนังสือก็ขายโฆษณาเหมือนกันเพราะเรางานสายนี้เรามีเครื่องมืออยู่แล้วเรามีคอนเน็คชั่นลูกค้าอยู่แล้วก็ง่ายต่อการทำงาน ก็ทำอยู่ปีนึงก็มาเจอ "คุณตู่ ปิยวะดี" คุณตู่ก็ชวนมาทำก็อยู่ยาวมาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังอยู่เบื้องหลังยังเจอนักแสดงดารา มีโอกาสเขาก็ให้โก้มาเล่นบทนนั่นนี้ก็ยังมีอยู่ค่ะ" ล้วงลึกความรักที่ "ไม่ใช่" ชายแท้หญิงแท้ ''จริงๆ แล้วมันอีกหลายคู่เลย มีเยอะเลยชีวิตคู่คือ วันหนึ่งมันต้องแยกกัน ไม่จากเป็นก็จากตาย คือแบบคนที่อยู่ด้วยกันมา 15 ปี วันหนึ่งปีหน้าอาจจะเลิกกัน กับคู่ที่อยู่กันปีสองปีแล้วเลิกกัน ต่างกันไหม ? ไม่ต่างหรอก ถ้าเลิกกันก็เลิกกันอยู่ดี ตรงนี้มันไม่ใช่จมาบอกว่ามีชีวิตคู่ที่ Success มีความสุขแต่เมื่อไหร่ก็ตามเริ่มใช้ชีวิตคู่แล้วมันพัฒนาการอยู่ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเพิ่มขึ้นไปพัฒนาตัวเราจากข้างในสู่ข้างนอก จิตใจเราเรามองยังไงเขามองยังไง ปรับทัศนคติให้อยู่ด้วยกันได้ แล้วก็สร้างคุณภาพของชีวิตคู่ได้ อันนี้คือสิ่งที่โก้มองว่าประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องเวลาความรักจริงๆ อยู่ด้วยกันมีปัญหาเยอะเหมือนกันนะ แต่พอดีว่าทุกครั้งที่มีปัญหา มันไม่ใช่คนใดคนหนึ่งแก้ปัญหาคนเดียวช่วยกันแก้ปัญหาแล้วทั้งคู่ก็ยังศรัทธาในชีวิตคู่ แล้วเชื่อในชีวิตคู่ว่า ชีวิตคู่นี้ฉันอยู่กับเธอ ยังกว่าฉันไปอยู่คนเดียวยังมองกันแล้วยังรู้สึกแบบนั้น พอรู้สึกแบบนั้นมันก็เลยอยู่กันมาได้คือมันจะมีแบบไม่ชอบ เบื่อ รำคาญ แต่มันไม่ใช่เราคนเดียวเขาก็เป็นและทีนี้มันจะมาอยู่ยังไง รำคาญแล้วทำยังไงคุยกัน เบื่อ เบื่อเพราอะไร มันเป็นเรื่องแบบเนี่ย แต่ว่ามันไม่ได้แก้คนเดียว มันก็เลยอยู่กันมาได้จนถึงตอนนี้ แต่ถามว่าอนาคตไม่รู้ ตอบไม่ได้" มาถึงกระแสเมาท์มอยส์ที่ไม่ถามไม่ได้ ''โกโก้ '' มีอะไรดีถึงมัดใจผู้ชายแท้อยู่หมัดจนผู้หญิงแท้ๆ ยังต้องอาย "ไม่ได้มีอะไรดีนะ มันเป็นเรื่องของเหตุผลมากกว่า คือเหมือนเราอยู่กับเขาแล้วมีพื้นที่ปลอดภัย อยู่แล้วสบายใจ เขาก็เป็น เขาก็บอกว่า เขารู้สึกเหมือนแบบ จะบอกว่าเป็นความคุ้นเคย เคยชินด้วยมั้งคะ ก็เลยอยู่กันมาได้ แล้วก็ด้วยความที่ว่า เราทั้งสองคน ทั้งครอบครัวเขา ครอบครัวเราก็รู้จักกันทั้งคู่มันก็เหมือนกันว่ากลายเป็นญาติกันในครอบครัว พอมันเป็นญาติกันความรู้สึกจะเลิกไม่นับถือกันมันก็จะค่อนข้างยาก ก็เหมือนแบบยังไงเขาก็เป็นญาติเรา ถ้าถามว่ามีทะเลาะมั้ย มีแหละแต่ว่าไม่ใช่อยากจะเลิกมั้ยไม่ใช่คือทะเลาะแต่เลือกที่จะเข้าใจเลือกที่จะแก้มัน แต่ถ้าทะเลาะกัน พอเสียงดังก็จะพอละ ไม่คุย ไม่คุยตอนนี้ไปทำอะไรก่อน ดูหนังทำอะไรไปก่อน ดูหนังซักแปปนึง มันจะมีช่วงระยะเวลาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเกิดเพราะอะไร ต้นเหตุคืออะไร จะมาคุยกัน ก็จะเข้าใจกันบ่อยๆ คุยกันบ่อยๆ บอกรักกันทุกวัน เหมือนจีบกันใหม่ ๆ เขาก็มีลงเฟสบุ๊คภรรยาผมนั่นนู่นนี่ ต่างๆ นานา แต่ว่าเฟสบุ๊คก็ดีอย่างนึงใช้ให้เป็นเนอะ อยู่ด้วยกันทำกิจกรรมเราก็รู้กันตลอดพออยู่คนละที่กัน มีกิจกรรมอะไรพอกลับมาเจอกันทีก็จะเล่าให้ฟังตอนนี้มีเฟสบุ๊ค ก็จะมีมาเม้นท์คุยกัน ก็คือตอนนี้แฮปปี้ดีค่ะ" ครบเครื่องทุกเรื่องราว งานดี รักเริ่ด ช่างเป็นชีวิตที่แสนจะดี๊ดีลงตัวจนน่าอิจฉาจริงๆ