คปภ.โชว์ฐานะประกันทั้งระบบแกร่ง

คปภ.โชว์ฐานะประกันทั้งระบบแข็งแกร่ง 4 เดือนเติบโต 5.41% มีสินทรัพย์รวมแตะ 2.51 ล้านล้านบาท

นายอำนาจ วงศ์พินิจวโรดม ผู้ช่วยเลขาธิการสายพัฒนาและวิเคราะห์ระบบการตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยภาพรวมของธุรกิจประกันทั้งระบบ ณ สิ้น เม.ย. 2557 มีความแข็งแกร่งมาก

โดยมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2.51 ล้านล้านบาท เติบโต 5.41% แบ่งเป็นสินทรัพย์ของประกันชีวิต 2.05 ล้านล้านบาท เติบโต 11.72% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตแบบปกติ

ในขณะที่สินทรัพย์ของประกันวินาศภัย อยู่ที่ 4.66 แสนล้านบาท ติดลบ 15.56% เหตุผลที่ติดลบเพราะยังต้องจ่ายค่าสินไหมน้ำท่วมอยู่ แต่ขณะนี้เหลือปริมาณไม่มากแล้ว คาดว่าทั้งระบบจะจ่ายค่าสินไหมน้ำท่วมได้หมดปลายปีนี้

ในส่วนของสินทรัพย์ลงทุนทั้งระบบ ณ สิ้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าอยู่ที่ 2.16 ล้านล้านบาท เติบโต 11.42% แบ่งเป็น สินทรัพย์ลงทุนของประกันชีวิต 1.92 ล้านล้านบาท เติบโต 11.50% สินทรัพย์ลงทุนของประกันวินาศภัย 2.35 แสนล้านบาท เติบโต 11.20% แสดงให้เห็นว่า สินทรัพย์ของทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัยเติบโตปกติ แม้ว่าสินทรัพย์รวมของประกันวินาศภัยลดลงก็ตาม ซึ่งในมุมมองของคปภ.ในฐานะที่กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ มองว่าเป็นทิศทางที่ดีไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง

เขาย้ำว่าเมื่อเข้าไปดูสินทรัพย์ลงทุนในเชิงลึกแล้ว โดยเฉพาะของประกันชีวิต พบว่า 59.30% ลงทุนในพันธบัตร หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 1.14 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ ขณะที่ลงทุนหุ้นกู้เอกชน 15.41% คิดเป็นเม็ดเงิน 2.97 แสนล้านบาท ลงทุนในหุ้นทุนแค่ 7.5% เท่านั้น คิดเป็น 1.44 แสนล้านบาท

เมื่อมาดูสินทรัพย์ลงทุนในเชิงลึกของประกันวินาศภัย พบว่า 31.02% ลงทุนในเงินฝากธนาคาร หรือ คิดเป็นเม็ดเงิน 7.31 หมื่นล้านบาท อันดับสองคือลงทุนในพันธบัตร 28.05% คิดเป็นเม็ดเงิน 6.61 หมื่นล้านบาท อันดับสามคือ ลงทุนในหุ้นทุน 25.15% คิดเป็นเม็ดเงิน 5.92 หมื่นล้านบาท

ส่วนเรื่องการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง ในมุมมองของคปภ.ถือว่าทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย อยู่ในระดับที่มั่นคงมาก เพราะเกณฑ์ของคปภ.กำหนดเอาไว้ที่ 140% แต่ผล ณ สิ้นเดือน เม.ย.พบว่า ประกันชีวิตทั้งระบบมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 407.4% ขณะที่ประกันวินาศภัยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 397.7%

ตัวเลขข้างต้นแสดงให้เห็นว่าภาพรวมของธุรกิจประกันทั้งระบบมีความแข็งแกร่งมาก แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมช่วงที่ผ่านมาจะปรับตัวลดลง การเมืองยังไม่มีเสถียรภาพ และเชื่อว่านับจากนี้ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง น่าจะมีเสถียรภาพมากกว่าเดิม ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ธุรกิจประกันเติบโตและมีความแข็งแกร่งเพิ่มได้อีก

สำหรับช่องทางการจำหน่ายของประกัน ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าช่องทางการขายผ่านธนาคาร หรือ แบงก์แอสชัวรันส์มีความโดดเด่นมาก โดยเฉพาะประกันชีวิต โดย สิ้นไตรมาสแรก พบว่าช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ มีเบี้ยอยู่ที่ 6.08 หมื่นล้านบาท เติบโต 38.04% และส่งผลให้มีสัดส่วนของเบี้ยคิดเป็น 46.76% ของเบี้ยประกันทั้งหมด ขณะที่ช่องทางตัวแทน มีเบี้ยประกันอยู่ที่ 6.11 หมื่นล้านบาท เติบโตแค่ 9.04% แต่คิดเป็น 47.06%ของเบี้ยประกันทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า เบี้ยประกันที่ผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์นั้นส่วนใหญ่เป็นเบี้ยประกันขนาดใหญ่กว่า ช่องทางตัวแทน

เขา ย้ำว่า นอกจากฐานะทางการเงินของบริษัทประกันโดยรวมยังมีความแข็งแกร่งแล้วแต่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีก คปภ.จึงได้ให้บริษัทประกันทุกแห่งต้องแสดง หรือ โชว์งบการเงิน เงินกองทุน ผ่านเว็บไซต์ของคปภ.โดยในเว็บไซต์จะมีการระบุว่าบริษัทใดเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัทประกันนั้นๆ ด้วยและหากมีอะไรที่ผิดปกติบริษัทผู้สอบบัญชีต้องเปิดเผยการแสดงความคิดเห็นและเงื่อนไขบนเว็บไซต์ด้วยเพื่อให้สาธารณชนรับทราบข้อมูลและพิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อประกันซึ่งสิ่งที่คปภ.ดำเนินการทั้งหมดนั้นเพื่อให้งบการเงินสะท้อนภาพของบริษัทประกันนั่นเอง

Tags : อำนาจ วงศ์พินิจวโรดม • คปภ. • ประกันภัย