หอการค้าต่างชาติหนุนคสช.

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 23 มิถุนายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    หอการค้าต่างชาติหนุน คสช. เดินหน้าปฏิรูป-มุ่งสู่เลือกตั้ง

    หอการค้าร่วมต่างประเทศในไทย 29 ประเทศสมาชิก ออกแถลงการณ์วันนี้(23 มิ.ย.) ต่อสถานการณ์การเมืองในไทย พร้อมสนับสนุนเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ต้านคอรัปชั่น พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เดินสู่กระบวนการเลือกตั้ง เตรียมขอพบคสช.พร้อมยื่นข้อเสนอแนะภายใน 2 สัปดาห์

    ปัญหาการเมืองในไทย ที่นำมาสู่การคลี่คลายปัญหาโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้นานาชาติกังวลต่อสถานการณ์ในไทย โดยหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจในไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนและข้อเสนอแนะ 29 ชาติสมาชิกต่อสถานการณ์ในวันนี้(23 มิ.ย.)

    นายแดนนี่ ยู ประธานสมาคมการค้าไทย-ฮ่องกง หนึ่งในสมาชิกหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT -Joint Foreign Chamber of Commerce in Thailand) กล่าวว่า วันนี้ (23 มิ.ย.) หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ซึ่งมีตัวแทนสมาคมการค้าจาก 29 ประเทศสมาชิก รวม 8,500 บริษัท กำหนดที่จะออกแถลงการณ์เพื่อนำเสนอจุดยืนรวมถึงเสนอแนะในการสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต

    แถลงการณ์ดังกล่าว มีเนื้อหาโดยสรุปคือ ท่ามกลางมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน แต่เป้าหมายของสมาชิกฯยังคงมุ่งเน้นที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวในไทย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไทยเป็นสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนความเห็น ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาเชิงโครงสร้าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน

    ทั้งนี้ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ยอมรับว่า ปัญหาการเมืองในไทยทำให้ไทยเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

    ส่วนการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปในเชิงโครงสร้าง โดยเข้าใจว่ามีเจตนารมณ์ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้

    อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องกลับสู่ "กระบวนการเลือกตั้ง" เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่เป็นตัวแทนตามหลักการประชาธิปไตยที่ประชาคมโลกยอมรับ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว พร้อมทั้งปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมืองและสังคม โดยเปิดให้คนในประเทศมีส่วนร่วมในกระบวนการปฏิรูป

    ทั้งนี้ หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยมุ่งหวังให้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง โดดเด่นและจูงใจให้เกิดการดำเนินธุรกิจในประเทศ

    พร้อมตระหนักดีว่าการสนับสนุนให้เกิดกระบวนการทำงานภายในประเทศไทยนั้นจะต้องอาศัยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งร่วมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น การต่อต้านการคอร์รัปชัน การเปิดเสรีภาคบริการ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การแสวงหาโอกาสภายหลังการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมไปถึงการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสาขาโทรคมนาคม (ICT) และการท่องเที่ยว

    เร่งแก้ภาพพจน์ไทยสายตาต่างชาติ

    นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติที่ทำธุรกิจในไทยมานานต่างเข้าใจปัญหาการเมืองในไทยเป็นอย่างดี แต่มีความเป็นห่วงภาพพจน์ประเทศไทยในสายตาต่างชาตินอกประเทศไทย ที่กังวลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อความปลอดภัยเมื่อทำธุรกรรมกับประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่าส่งออกสินค้าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์

    ดังนั้น จึงต้องส่งสารอธิบายทำความเข้าใจที่ถูกต้องไปถึงต่างชาติ ให้แยกส่วนระหว่างการเมืองซึ่งเป็นเรื่องภายในประเทศ ว่าเป็นคนละส่วนกับการดำเนินธุรกิจ ที่ยังคงขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างเป็นปกติ

    “ทหารเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย ภายใต้คสช. แต่ภาษาที่ออกไป ความหมายนั้นรุนแรงต่างกันกับสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น คำว่ารัฐบาลทหาร เคอร์ฟิว กฎอัยการศึก"

    ที่ผ่านมา คสช.เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ การอนุมัติจ่ายเงินคงค้างค่าข้าวให้กับชาวนา การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนที่หยุดชะงักมานานไม่ต่ำกว่าแสนล้าน เหล่านี้ทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยมากขึ้น

    “เราต้องการบอกให้พันธมิตรและรัฐบาลตะวันตกให้เข้าใจปัญหาภายในประเทศไทยที่ควรปล่อยให้คนภายในประเทศจัดการ ส่วนเราเป็นเอกชนที่ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า การลงทุนให้เดินหน้าต่อไป หลังจากที่ไทยสูญเสียโอกาสมากว่า 7 เดือน ทำให้การลงทุนบางส่วนย้ายฐานไปยังประเทศอื่นในอาเซียน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย และเวียดนาม“

    เตรียมเสนอแนะคสช.2 สัปดาห์

    นายคัง กล่าวต่อว่า ขณะนี้หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเสนอแนะจากหอการค้า 29 ประเทศสมาชิก เพื่อที่จะจัดทำเอกสารแนวทางการพัฒนาประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า (Position Paper) ยื่นให้กับ คสช.ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า

    ในเบื้องต้น รายละเอียดของเอกสารจะรวบรวมปัญหา แนวทางการดำเนินธุรกิจของต่างชาติในประเทศไทย เพื่อยกระดับการพัฒนาประเทศ อาทิ การเปิดเสรีการค้า โดยเฉพาะภาคบริการ บางสาขาที่จะเกิดประโยชน์ผลักดันให้เกิดการแข่งขัน เมื่อมีกลุ่มธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นก็จะผลักดันให้เกิดการพัฒนาในเชิงประสิทธิภาพด้านการขับเคลื่อนประเทศ ที่จะมีส่วนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ประเทศไทย

    ขณะเดียวกัน ยังเสนอแนะให้แก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมานาน อาทิ ปัญหาการออกวีซ่าการทำงานในประเทศ ที่ต้องรายงานตัวทุก 90 วัน และควรมีหน่วยงานรับผิดชอบอย่างเบ็ดเสร็จเพียงหน่วยงานเดียว

    นายแดนนี่ ยู กล่าวเสริมว่าที่ผ่านมากลุ่มหอการค้าฯได้ร่วมประชุมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายใน เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าการทำธุรกิจในประเทศไทย โดยจะสรุปประเด็นปัญหาหารือกับ คสช.ในระยะถัดไป อย่างไรก็ตาม ทางคสช.ยังไม่ตอบรับและกำหนดเวลานัดหมาย

    “เป็นการเข้าพบปกติ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือการปกครอง เราก็ต้องเข้าไปหารือกับผู้นำเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาหลักๆ ที่เป็นอุปสรรคในการทำการค้าและทำธุรกิจของต่างชาติในไทย เราหวังว่าการเข้าหารือกับคสช.จะเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะดูจากการทำงานที่ผ่านมา มีการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว” เขากล่าว

    นายแจน อีริคสัน ประธานหอการค้าไทย-สวีดิช กล่าวว่า สิ่งที่เขาเสนอคือการกระตุ้นเศรษฐกิจและขยายโอกาสด้านการค้าโดยเร็ว ทำให้บรรยากาศทำธุรกิจฟื้นตัว เพราะนักลงทุนต่างชาติทุกรายที่อยู่ในเมืองไทยมานานไม่ต้องการย้ายถิ่นฐานหรือไปทำธุรกิจที่ประเทศอื่น จึงต้องการให้คสช. ยกระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อเป็นแรงดึงดูดให้เกิดการทำธุรกิจในประเทศไทย

    Tags : คอรัปชั่น • หอการค้าต่างประเทศ • คสช.

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้