เอ็มจี เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กับ เอ็มจี 6 รถในตลาดคอมแพค โดยตั้งเป้าขาย ช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ 2,000 คัน ส่วนปีหน้าที่จะมีกิจกรรมส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ใช้พวงมาลัยขวา รวมทั้งการเสริมรถรุ่นใหม่เพิ่มเติมทั้ง เอ็มจี 5 และเอ็มจี 3 จะมียอดรวมทั้งหมด 1.4 หมื่นคัน เอ็มจี 6 เปิดตัวมา 9 รุ่นย่อย เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แต่แบ่งเป็นรุ่นธรรมดา 134 แรงม้า และรุ่นเทอร์โบ 161 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ทุกรุ่น ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 8.48 แสนบาท-1.12 ล้านบาท ในรุ่นฟาสต์แบค เทอร์โบ พร้อมซันรูฟ การกำหนดราคาของเอ็มจี จริงๆแล้วก็ถือว่าเกาะกลุ่ม แต่บางคนมองว่าผิดคาด เพราะคิดว่าน่าจะต่ำกว่านี้ โดยเฉพาะการเป็นผู้มาใหม่ในตลาด ที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ทั้งคู่ยักษ์ใหญ่ อย่างโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส กับ ฮอนด้า ซีวิค และกลุ่มยักษ์เล็กที่หลายๆรุ่น ก็มีพัฒนาการ สร้างเอกลักษณ์ขึ้นมาได้อย่างชัดเจน จนมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น แม้จะยังไม่ใหญ่นักก็ตาม อย่างไรก็ตาม หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ผู้ทำตลาด เอ็มจี ในไทย ยืนยันว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้จากรถคันนี้ และเชื่อมั่นว่าเมื่อลูกค้าได้สัมผัสกับตัวรถ และรับรู้ถึงความแตกต่างกับรถทั่วๆไป ที่มีขนาดเครื่องยนต์ และมิติตัวถังใกล้เคียงกัน จะน่าจะชื่นชอบในบุคลิกของเอ็มจี ดังนั้นกิจกรรมแรกที่ต้องทำคือ การโรดโชว์ ผู้บริหารเอ็มจี รวมถึง กาย โจนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย เอ็มจี อังกฤษ ที่มาร่วมพูดถึงประสบการณ์ในการฟื้นตลาดเอ็มจี พยายามหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่า ซี-เซ็กเมนต์ ซึ่งขนาดของ เอ็มจี 6 จัดอยู่ในกลุ่มนี้ เหตุผลหนึ่งก็คือ ไม่ต้องการให้เกิดการเปรียบเทียบกับรถในตลาด โจนส์ บอกว่า เหตุผลที่ต้องการเช่นนั้น เพราะเชื่อว่าเอ็มจี เป็นรถอังกฤษที่มีบุคลิกเฉพาะตัวเช่นเดียวกับ มินิ แอสตัน มาร์ติน หรือว่าโรลสรอยซ์ และที่สำคัญก็คือ ไม่ต้องการแข่งขันกับใคร แต่ต้องการสร้างตลาดใหม่ เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการรถยุโรป ในราคาที่ไม่สูงเกินไป โจนส์ บอกว่า ที่อังกฤษเอง ซึ่งเอ็มจี 6 เปิดตัว หลังจากหายจากตลาดไปนาน คนอังกฤษจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกแปลกกับการเป็นรถที่ตกมาอยู่ในการดูแลของยักษ์ใหญ่จีน แต่หลังจากที่ลูกค้ามีโอกาสสัมผัสกับรถ ทำให้ปัจจุบันมันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และที่อังกฤษ มันเป็นคู่แข่งกับรถเยอรมนี และถึงวันนี้มีกลุ่มลูกค้าตั้งชมรม (เอ็มจี คลับ) ซึ่งเป็นชมรมที่ใหญ่ที่สุด ไม่เพียงที่อังกฤษ แต่มันยังเกิดที่สหรัฐ และที่จีนอีกด้วย และหวังว่าในอนาคต จะเกิดขึ้นที่ไทยเช่นกัน อย่างไรก็ตามผู้บริหารเอ็มจี ยอมรับว่า ช่วงแรกของการทำตลาด ยังมีการบ้านอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ รวมถึงการเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค ความคาดหวัง หรือแม้แต่ตำแหน่งของตลาด ซึ่งอย่างน้อยก็เป็นข้อมูลสำหรับการทำตลาดรุ่นต่อๆไปในอนาคต แต่ก็ยืนยันสำหรับเอ็มจี 6 เป็นราคาที่เหมาะสม แต่การที่หากมีลูกค้าบางส่วนจะมองภาพติดกับจีน ก็เป็นเรื่องที่จะต้องสร้างความเข้าใจต่อไป และพยายามชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันสินค้าจีนหลายๆอย่างก็พัฒนาไปไกล แนวคิดการตั้งราคาของเอ็มจี อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ได้ เพราะหลายๆครั้งที่สินค้าหลายๆตัว เปิดตลาดด้วยกลยุทธ์ราคา หลังจากนั้นก็ไม่สามารถยกระดับตลาดขึ้นมาจากการถูกมองเป็นสินค้าราคาต่ำได้เลย Tags : เอ็มจี 6 • เครื่องยนต์ • พวงมาลัย • ลูกค้า