เว็บไซต์ Business Insider รวบรวมประวัติการสร้างแอพแชต Yo ว่ามีที่มาจากบริษัท Mobli โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับแชร์รูปภาพจากอิสราเอล แต่ Yo ไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจของ Mobli เลย เพราะเกิดจากซีอีโอ Moshe Hogeg อยากได้แอพที่ใช้ส่งข้อความหาภรรยาและผู้ช่วยของเขาบนสมาร์ทโฟน โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้ง่ายที่สุด ง่ายกว่าการส่งอีเมลหรือ SMS เสียอีก (ก่อนหน้านี้เขาใช้วิธีส่งข้อความ ! หรือ ? กลับไปกลับมาหาเพื่อนๆ) เขาจึงสั่งให้ Or Arbel วิศวกรของบริษัทไปทำแอพมาให้หน่อย Or Arbel ปฏิเสธเมื่อได้รับคำสั่งครั้งแรก เขาบอกว่ามันเป็นแอพโง่ๆ ไม่มีใครใช้หรอก แต่เมื่อซีอีโอยืนยัน เขาก็ยอมทำโดยใช้เวลาเพียง 8 ชั่วโมง ผลคือทำออกมาดีกว่าที่ Hogeg คาดไว้เสียอีก แต่เนื่องจากแอพดูงี่เง่ามาก Hogeg จึงไม่ใช้ชื่อ Mobli เพราะกลัวเสียแบรนด์ ทั้งคู่ส่งแอพขึ้น App Store เงียบๆ ในวันที่ 1 เมษายน (April Fools) แต่โดนแอปเปิลปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าแอพไม่มีอะไรเลย ทั้งสองคนเถียงกับแอปเปิลอยู่พักใหญ่จนสุดท้ายแอพก็ผ่านการอนุมัติ Hogeg ส่งแอพนี้ให้ภรรยาและผู้ช่วยใช้ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ส่งให้คนในบริษัท Mobli ใช้ พร้อมกับขอให้ปิดข่าวอย่าเพิ่งแชร์แอพออกไปให้คนนอก แต่กระแสต้านไม่อยู่ คนในเมือง Tel-Aviv ของอิสราเอลฮิตกันมาก มีคนใช้ Yo กันมากกว่า 20,000 คน ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม บล็อกเกอร์ชื่อดัง Robert Scobble ไปดูงานและเยี่ยม Hogeg ทำให้เขารู้จักแอพตัวนี้ เขาบอกว่ามันเป็นแอพที่ดูงี่เง่าที่สุดตั้งแต่เคยเจอ แต่ก็ชวนให้ติดมันมาก พอ Scobble กลับมายังอเมริกา เขาก็แนะนำแอพตัวนี้ลง Facebook ทำให้คนไอทีฝั่งอเมริการู้จักมันอย่างรวดเร็ว Hogeg บอกว่าหลังจากนั้นเขาเริ่มได้รับอีเมลจากนักลงทุน (VC) ในอเมริกา สนใจสอบถามวิสัยทัศน์ของ Yo ว่าเป็นอย่างไร ซึ่ง Hogeg ก็อธิบายว่า Yo เป็นเพียง "โครงการลองทำเล่น" ของบริษัทและมีคนทำเพียงแค่สองคนเท่านั้น แต่เมื่อคนใช้เยอะขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ตัดสินใจว่าควรมอง Yo เป็นสตาร์ตอัพอีกบริษัทหนึ่ง และเริ่มจริงจังกับมันมากขึ้น Hogeg เล่าว่าเขาได้รับข้อเสนอลงทุนมูลค่าถึง 2.5 ล้านดอลลาร์แต่ก็ปฏิเสธไป และเลือกรับข้อเสนอมูลค่า 1.2 ล้านดอลลาร์แทน เขาบอกว่าอยากค่อยๆ พัฒนา Yo ไปทีละขั้นและคอยดูเสียงตอบรับจากตลาดก่อน (คนในอิสราเอลที่เคยใช้ Yo เป็นกลุ่มแรกๆ บางส่วนเริ่มลบแอพหรือกดส่งข้อความกันน้อยลง) Hogeg ยอมรับว่า Yo อาจเป็นเพียงแค่กิมมิคที่ดังขึ้นชั่วคราว แต่ความนิยมของมันที่ทำให้คน "ติด" ก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม ที่มา - Business Insider Yo, Israel, Instant Messenger