โบรกฯแนะลุยหุ้นพลังงาน หลังสถานการณ์อิรักเดือด ประเมินไม่กระทบดัชนีตลาดหุ้นไทยรุนแรงเหมือนในอดีต นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง ด้วยมูลค่ารวมสูงถึง 8,500 ล้านบาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าขายสุทธิเพียง 2,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสูงถึง 4.3 หมื่นล้านบาท จากยอดซื้อสะสมสุทธิตั้งแต่ปี 2552 ที่เหลืออยู่ประมาณ 39,000 ล้านบาท (ตามมูลค่าตลาด) ทั้งนี้แรงขายดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ที่กระแสเงินทุนไหลเข้ายังคงชะลอตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิต่อเนื่อง แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นและอินเดีย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมา 3.5% รั้งอันดับสาม ซึ่งถือว่ายังโดดเด่นกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคอย่างตลาดฮ่องกงและฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ แม้ดัชนีในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะพักตัว แต่ยังมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นได้ต่อในระยะยาว สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ สถานการณ์ในประเทศอิรักที่ยังมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่การสู้รบที่รุนแรง นำมาซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นหลายประการ แต่ที่กระทบมากที่สุด คือ ราคาน้ำมัน ซึ่งหากประเมินจากสถานการณ์ที่อิรักบุกยึดคูเวต เมื่อช่วงปี 2533-2534 ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นถึง 30% ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงถึง 48% แต่สถานการณ์ในครั้งนี้ ประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับดัชนีตลาดหุ้นไทยรุนแรงเหมือนในอดีต ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แนะนำให้เก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ ปตท.สผ. ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่กลุ่มพลังงานทดแทน คาดว่าจะได้รับประโยชน์ในทางอ้อม โดยหุ้นที่แนะนำ คือ GUNKUL ด้าน นายทรงกลด วงศ์ไชย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ายังคาดว่าจะอยู่ในเเดนบวกต่อเนื่องได้จากสัปดาห์นี้ แต่หากดัชนีปรับตัวขึ้นเเรง ต้องระมัดระวังการขายทำกำไร ทั้งนี้ ต้องจับตารอปัจจัยจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องโครงการรถไฟทางคู่ การประมูล 4จี และความคืบหน้าการออกคูปองกล่องทีวีดิจิทัล รวมถึงสถานการณ์ในอิรัก หากมีความรุงเเรงและลุกลามไปยังกรุงเเบกเเดด ซึ่งเป็นเเหล่งผลิตน้ำมัน จะทำให้เป็นเเรงช่วยหนุนราคาน้ำมันให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกลุ่มพลังงานจะได้รับประโยชน์ และสำหรับตลาดหุ้นไทย กลุ่มพลังงานถือว่าเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักต่อดัชนี Tags : บล.เอเชียพลัส • หุ้น • บล.ฟินันเซียฯ • อิรัก • ราคาน้ำมัน