คณะรักษาความสงบแห่งชาติ สั่ง คตร. ตรวจสอบงบประมาณท้องถิ่น เน้นโปร่งใสเร่งแก้ปัญหาร้องเรียน เดินหน้าปราบปรามยาเสพติด ขณะที่ ป.ป.ช.จ่อพบ 'ประยุทธ์' ขอหนุนสอบข้าว การประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อติดตามสถานการณ์ประจำวัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุม โดยเลขาธิการ คสช. กล่าวย้ำนโยบายของหัวหน้า คสช. ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามแก้ไขปัญหาในเรื่องที่มีการร้องเรียนทั้งการยื่นหนังสือ หรือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ รวมถึงเร่งทำความเข้าใจ กับสื่อต่างประเทศ กรณีการปิดสถานีวิทยุชุมชนบางแห่งว่า เนื่องจากเป็นสถานีวิทยุที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของ กสทช. พร้อมกันนี้ ยังขอให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. ตรวจสอบและช่วยเหลือในการดำเนินการจัดสรรงบท้องถิ่น และกองทุนต่าง ๆ ให้มีความโปร่งใสและใช้ประโยชน์ได้จริง นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงการพบกับผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ 7 ประเทศ ในวานนี้ว่า ได้ทำให้นักลงทุนต่างประเทศ มีความมั่นใจการทำงานภายใต้การดูแลของ คสช. ที่กำลังดำเนินการอำนวยความสะดวกด้านการค้า ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นประธานการประชุมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยได้เน้นการติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลการป้องกันและปราบปรามในพื้นที่ภูมิภาค ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มอบหมายให้ กทม. เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ คสช. ยังเตรียมดึง NGO และ ภาคประชาชน มาร่วมมือกันแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ คสช. มีเป้าหมายหมายหลัก ในการขจัดยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ ป.ป.ช.จ่อพบ 'ประยุทธ์' ขอหนุนสอบข้าว พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ทางคณะกรรม ป.ป.ช. ได้เข้าพบ หัวหน้า คสช. ภายหลังการทำหนังสือเพื่อขอความร่วมมือในการสนับสนุนการตรวจสอบข้าวของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และให้ข้อมูลกับ คสช. ในเรื่องของการปฏิรูปองค์กร ทั้งทางด้านโครงสร้าง และด้านกฎหมายที่จะใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานของ ป.ป.ช. ทั้งในส่วนที่เร่งด่วน และในส่วนที่จะต้องนำเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาปฏิรูปฯ นอกจากนี้ ทาง ป.ป.ช. ได้นำเสนอเป้าหมายในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ปี 56-60 ของ ป.ป.ช. ในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม เน้นการบูรณาการ และการมีส่วนรวมทุกภาคส่วน รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างไรก็ตาม พ.อ.วินธัย ยืนยันว่า ไม่ให้มีการหารือในเรื่องคดีความใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม หรืออยู่ในกระบวนการของ ป.ป.ช. อยู่แล้ว