เต๊ะ ศตวรรษ โพสต์ภาพ "ตัน อิชิตัน" กับกองเงิน บอกเป็นตัวอย่างขยะสังคม และคนชอบทำตัวเป็นเหมือนขอทาน อยากอยู่ดีแต่ไม่อยากมีเหงื่อ กลายเป็นเรื่องดราม่ายกใหญ่เมื่อนักแสดง เต๊ะ ศตวรรษ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Suttawat Settakorn ซึ่งภาพและข้อความนั้นเป็นภาพของ ตัน อิชิตัน กับกองเงิน ที่เอาไว้แจกให้ผู้โชคดีที่เข้าร่วมแคมเปญชิงรางวัล และข้อความระบุว่า "นี้ก็อีกตัว+อย่างของขยะสังคม มองคนไทย ( บางคน ) เป็นเหมือนขอทานที่วันๆจะรอแต่ของฟรี อยากอยู่ดีแต่ไม่อยากมีเหงื่อ" ซึ่งข้อความดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้างและมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด จนกระทั่งล่าสุด เต๊ะ ศตวรรษ ได้ออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้ง "ยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลชีวิตด้วยน่ะครับ ขอให้ทุกท่านร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง เจตนาในการพูดถึงประเด็นการเอาภาพเงินมากองเท่าภูเขา หลายๆ ท่านอาจชื่นชอบ อาจมีส่วนน้อยอย่างกระผมที่รู้สึกถึงการกระทำแบบนี้เหมือนกำลังบอกค่าและราคาของคนร่วมชาติ ท่านที่ชื่นชอบผมก็คงไม่ไปขัดความสุขและความภูมิใจต่อภาพลักษ์ของคนชาติเดียวกัน" "ท่านอาจชื่นชอบโฆษณาในทีวีที่เห็นภาพคนคลุ้มคลั่งแย่งทองราวกับ Zombie นั่งดูกับลูกกับหลานอย่างสนุกสนานแบบไม่ต้องซื้อตั๋วหนัง ผมและชนกลุ่มน้อยอาจรู้สึกแตกต่างกับท่าน ละอาย ในความละโมภที่สร้างขึ้นมาเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบนั้น...เอาที่ท่านชอบครับ ผมไม่ขัด อย่างน้อยมันก็สร้างรอยยิ้มให้กับคนชาติอื่นๆ ที่ได้เห็นความเป็นไทยในแบบที่คุณชื่นชอบกัน" "เพราะฉะนั้นหากท่านไม่ได้เป็นชนกลุ่มน้อยอย่างผม อย่าลดตัวมาแสดงความฉลาดให้คนรู้น้อย น้ำเต็มขวดอย่างผมเลย เสียเวลาท่านๆ ท่านเอาเวลาไปสร้างประโยชน์ในแบบฉบับที่ท่านอยากให้เป็น เพิ่มความสุขและเติมเต็มในความชื่นชอบที่หน้าบ้านท่าน เจ้าของบ้านหลังนี้ไม่อยากเห็น Zombie หื่นทองมาเดินป้วนเปี้ยน ผมกลัว... ส่วนหลายๆ ท่านที่บอกว่ารวยเท่าเค้าแล้วค่อยมาว่าคนอื่น อืม ผมเข้าใจประเด็นและความเข้าใจในเหตุและผลต่อข้อความที่ท่านได้โพสแบบกระจ่างแจ้งเลยครับ...น่าเสียดายคนหาเช้ากินค่ำอย่างผมไม่สามารถตะโกนด่า ต่อต้าน เพราะเรามียอดในบัญชีไม่เท่ากัน.. ชนกลุ่มน้อยอย่างผมได้กลายเป็นเด็กขี้อิจฉาในสายตาท่านเพราะมีราคาน้อยกว่า เจริญครับ งั้นก่อนที่ท่านโพสด่าผมก็ช่วยกรุณาแง้มดูประเป๋าตังค์ตัวท่านเองด้วยครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง" ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับวิจารญาณส่วนบุคคลจริงๆ ประเด็นนี้