เมื่อช่วงที่ผ่านมา ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับ 30 แกนนำ กปปส. จากที่กรมสอบสวนคดีหรือดีเอสไอ ยื๋นคำร้องขอให้ออกหมายจับ 43 แกนนำกปปส. โดยอีก 13 คน ศาลยกคำร้องออกหมายจับเนื่องจากเห็นว่าอยู่ในอำนาจศาลอยู่แล้ว ทั้งนี้ ศาลอาญาได้อนุญาตออกหมายจับนายถาวร เสนเนียม พร้อมพวกรวม 30 คน ซึ่งเป็นแกนนำ กปปส. และแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ในข้อหาร่วมกันเป็นกบฎ และข้อหาอื่นๆ รวม 8 ข้อหา จากที่พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอยื่นคำร้อง จำนวน 43 คน โดยศาลได้อนุญาตให้ออกหมายจับ ผู้ต้องหาดังกล่าวรวม 30 ราย เพื่อนำตัวมาฟ้องคดี โดยให้หมายเหตุว่าเจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุม ผู้ถูกออกหมายจับ ได้เพียงเท่าที่จำเป็น ในการนำตัวมาส่งฟ้องต่อศาลเท่านั้น และให้ยกคำร้องขอหมายจับ นายสมศักดิ์ โกสัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา พร้อมพวกรวม 13 คน เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาดังกล่าว อยู่ระหว่างการปล่อยชั่วคราวของศาล อยู่ในอำนาจของศาลแล้ว และไม่ปรากฎว่าจำเลยหลบหนีระหว่างปล่อยชั่วคราว ศาลย่อมมีอำนาจที่จะบังคับให้ผู้ประกันส่งตัวจำเลยต่อศาล ในคดีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องไว้แล้ว อัยการสามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาเป็นจำเลยต่อศาลอาญา โดยไม่ต้องนำตัวผู้ต้องหามาศาลจึงยกคำร้อง ขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ระบุก่อนหน้านี้ว่า หากศาลอนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. ตำรวจได้เตรียมชุดปฏิบัติการจู่โจมไว้แล้ว โดยเป้าหมายแรกเป็นแกนนำกว่า 20 คน ที่ไม่ได้พักอยู่ในพื้นที่ชุมนุม และไม่มีการ์ดคุ้มกัน