บอร์ดบีโอไอนัดแรกไฟเขียว 18 โครงการ เงินลงทุนกว่า 1.2 แสนล้าน ตั้งอนุฯพิจารณาโครงการ 15 คน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ประชุมนัดแรก วานนี้ (18 มิ.ย.) อนุมัติโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนรวม 18 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท จากโครงการที่ค้างการพิจารณากว่า 7 แสนล้านบาท นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า การประชุมบอร์ดบีโอไอ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกรรมการ และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.เป็นรองประธานกรรมการ ได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 18 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 122,837.7 ล้านบาท “การที่บอร์ดบีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อบรรยากาศการลงทุนในประเทศไทย เพราะนอกจากจะช่วยให้นักลงทุนกลุ่มที่ชะลอการตัดสินใจยื่นขอรับส่งเสริมก่อนหน้านี้เกิดความมั่นใจและตัดสินใจยื่นขอรับส่งเสริมเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557" นายอุดม กล่าวว่า การเดินหน้าอนุมัติส่งเสริมโครงการลงทุนที่เหลือภายในช่วงไม่กี่เดือนนับจากนี้ยังจะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะมาจากเม็ดเงินลงทุนของโครงการที่ได้รับส่งเสริม ช่วยให้เกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรมสนับสนุน และการจ้างงานใหม่อีกหลายแสนตำแหน่งในช่วงปี 2558 ตั้งอนุฯพิจารณาโครงการ 15 คน นายอุดม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการ จำนวน 15 คนประกอบด้วย นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการบีโอไอเป็นประธาน ผู้บริหารระดับสูงของบีโอไอ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คณะอนุกรรมการชุดนี้ มีอำนาจและหน้าที่พิจารณาให้การส่งเสริมการลงทุนแก่โครงการที่มีขนาดการลงทุนตั้งแต่ 200-750 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน และโครงการที่เป็นกิจการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ และมีขนาดการลงทุนเกิน 200 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่ในการกลั่นกรองการส่งเสริมการลงทุนสำหรับโครงการที่มีขนาดการลงทุนเกิน 750 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน เอกชนเชื่อสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ ด้าน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) กล่าวว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้นโยบายการส่งเสริมการลงทุนจะต้องเน้นธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ ที่มุ่งไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ตั้งคณะอนุกรรมการบีโอไอ 2 ชุด ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการพัฒนานโยบายบีโอไอ โดยมี พล.อ.อ ประจิน เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการส่งเสริมการลงทุน มีนายอุดม เลขาธิการบีโอไอ เป็นประธาน ในส่วนของการปรับนโยบายบีโอไอนี้ ส.อ.ท.มีความเห็นว่าควรจะปรับการให้สิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนให้เหมาะสม เช่น การลดสิทธิประโยชน์การลงทุนในส่วนของธุรกิจทั่วไปที่ประเทศไทยมีอยู่มากแล้ว หรือธุรกิจที่มีผลกำไรดี เนื่องจากในปัจจุบันภาษีนิติบุคคลของไทยก็ลดต่ำลงมากแล้วเหลือเพียง 20% และควรหันไปเพิ่มการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ที่เป็นผู้ประกอบการไทย 100% เพื่อให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น "การที่ บีโอไอ มีการประชุมนัดแรก และอนุมัติโครงการไปกว่า 1.2 แสนล้านบาท จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ และมีความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของไทยภายใต้การดำเนินงานของ คสช.มากขึ้น ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ประธาน คสช. ได้ให้ความสำคัญ และอยู่พิจารณาโครงการลงทุนทั้งหมดโดยตลอด รวมทั้งคณะกรรมการทุกคนก็จะพยายามเร่งพิจารณาโครงการที่ค้างอยู่ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว" นายสุพันธุ์ กล่าว Tags : บีโอไอ • อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย • คสช. • ส.อ.ท.