ยอดขายรถร่วง42%ค่ายรถอัดแคมเปญสู้

ยอดขายรถในประเทศ5เดือนร่วง42% ฮอนด้าอัดแคมเปญ-จี้ลีสซิ่งปล่อยกู้

กลุ่มอุตฯยานยนต์ เผยยอดขายในประเทศ 5 เดือนแรกร่วง 42% รถยนต์นั่งวูบสุด 50% มั่นใจครึ่งปีหลังฟื้น เพราะการเมืองนิ่ง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ คสช. ดันยอดซื้อในประเทศเพิ่ม ด้านส่งออกโต 9% ขณะที่ค่ายรถวางแผนระยะสั้น รุกจัดแคมเปญส่งเสริม หวังลีสซิ่งผ่อนคลายเกณฑ์ปล่อยกู้

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 69,681 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีก่อน 37.7% และลดลงจากเดือนเม.ย. 4.88% ซึ่งยอดรวมตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค. 2557 รถยนต์มียอดขาย 367,112 คัน ลดลงจากปีก่อน 42.2% ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 718,755 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 20.81%

เมื่อแยกชนิดรถยนต์ จะพบว่า ในรอบ 5 เดือนแรกของปีนี้ยอดขายรถยนต์นั่งลดลง 50.10% รถกระบะลดลง 36.10% รถบรรทุก 49.43% รถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้น 6.70% และรถยนต์ชนิดอื่นๆ ลดลง 41.79% ทำให้ยอดรวมรถยนต์ทั้งหมดลดลง 42.20% สาเหตุที่ลดลงมา เนื่องจากปีนี้ไม่ต้องส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถคันแรกแล้ว ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่คลี่คลาย สภาพเศรษฐกิจชะลอตัว และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ชะลอออกไป

"กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ มองว่า หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้ความวุ่นวายทางการเมืองเข้าสู่ภาวะสงบ รวมทั้งยังได้อนุมัติเงินจำนำข้าวให้กับชาวนา ออกมาตรการเร่งการเบิกจ่ายงบปี 2557 และผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2558 ได้ตามที่กำหนด ตลอดจนการผลักดันงบโครงการก่อสร้างกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก จึงทำให้คาดว่ายอดขายรถยนต์ภายในประเทศครึ่งปีหลังดีขึ้น โดยกลุ่มรถกระบะ รถยนต์ขนาดเล็ก และรถจักรยานยนต์ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มแรก ส่วนยอดขายทั้งปีจะอยู่ในระดับใด ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลจากค่ายรถยนต์ต่างๆ โดยในเดือนก.ค. จะเปิดเผยตัวเลขการประมาณการใหม่ได้ชัดเจน" นายสุรพงษ์ กล่าว

ด้าน การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ส่งออกได้ 94,788 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 9.02% และเพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. 2557 ในระดับ 35.79% โดยมีมูลค่าการส่งออก 45,549.38 ล้านบาท

สำหรับจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพ.ค. นั้น มีทั้งสิ้น 148,201 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 36.08% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย.ในระดับ 16.94% ส่วนจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนม.ค.-พ.ค. 2557 มีจำนวน 792,423 คัน ลดลงจากเดือนม.ค.-พ.ค. 2556 หรือลดลง 29.49%

ผลิตเพื่อส่งออกเดือนพ.ค. กว่า 9.2 หมื่นคัน

กำลังการผลิตทั้งหมดนี้ แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกในเดือนพ.ค. ผลิตได้ 92,179 คัน มีสัดส่วนการผลิต 62.2% ของยอดการผลิตทั้งหมด และมีจำนวนผลิตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.38% ส่วนเดือนม.ค.-พ.ค. 2557 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 455,334 คัน หรือมีสัดส่วนเท่ากับ 57.46% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.28%

ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนพ.ค. ผลิตได้ 56,022 คัน เท่ากับ 37.8% ของยอดการผลิตทั้งหมด โดยมีจำนวนผลิตลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 60.5% ส่วนเดือนม.ค.-พ.ค. 2557 ผลิตได้ 337,089 คัน เท่ากับ 42.54% ของยอดการผลิตทั้งหมด และมีจำนวนผลิตลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 50.33%

สำหรับยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนพ.ค. ได้ทั้งสิ้น 216,260 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21.52% แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 160,898 คัน ลดลงจากปีก่อน 26.29% และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 55,362 คัน ลดลงจากปีก่อน 3.35% ส่วนยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนม.ค.-พ.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,014,936 คัน ลดลงจากปีก่อน 17%

ยอดผลิตรถยนต์-จักรยานยนต์4.9แสนคัน

สำหรับยอดประมาณการการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์เดือนมิ.ย.-ส.ค. 2557 ในส่วนของการผลิตรถยนต์ คาดว่าจะมี 499,127 คัน เทียบกับยอดผลิตจริงเดือนมี.ค.-พ.ค. มีจำนวน 456,265 คัน เพิ่มขึ้น 42,862 คัน หรือ 9.39% และเมื่อเทียบกับยอดผลิตจริงเดือนมิ.ย.-ส.ค. 2556 ซึ่งมีจำนวน 611,678 คันแล้ว ลดลง 112,551 คัน หรือ 18.4%

ส่วนประมาณการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมิ.ย.-ส.ค. มีจำนวน 550,627 คัน เทียบกับยอดผลิตจริงเดือนมี.ค.-พ.ค. มีจำนวน 485,094 คัน เพิ่มขึ้น 65,533 คัน หรือ 13.51% และเมื่อเทียบกับยอดผลิตจริงเดือนมิ.ย.-ส.ค. 2556 ซึ่งมีจำนวน 589,987 คันแล้ว ลดลง 39,360 คัน หรือ 6.67%

ค่ายรถเร่งวางแผนระยะสั้น-หวังลีสซิ่งผ่อนคลาย

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดรถยนต์ปีนี้จะหดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า แต่ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีต่อตลาด คือ ความเชื่อมั่นของลูกค้าเริ่มกลับคืนมา หลังจากเห็นทิศทางของประเทศทั้งด้านการเมือง หรือแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจที่จะจับจ่ายมากขึ้น ดังนั้นหากการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศทำได้ดี ก็จะช่วยฟื้นตลาดในช่วงเวลาที่เหลือของปีได้

ตลาดรถยนต์ ยังมีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายอย่าง รวมถึงสถาบันการเงินที่มีผลต่อตลาด และการซื้อขาย ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างมาก ส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ เนื่องจากมีผู้ไม่ผ่านอนุมัติมากกว่าช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ดังนั้นหากว่าสถาบันการเงินมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเช่นกัน ก็จะทำให้ตลาดรถยนต์ปรับตัวได้เร็วขึ้น

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ถือว่าตลาดยังไม่นิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นแนวทางการทำตลาดก็คือการกำหนดแผนธุรกิจระยะสั้น แบบเดือนต่อเดือน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในเวลานั้นๆ มากที่สุด รวมถึงการจัดแคมเปญส่งเสริมการที่ยังคงมีให้เห็น เพราะว่าค่ายรถต้องการกระตุ้นตลาด

มั่นใจกำลังซื้อยังมีปริมาณมาก

นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ช่วงที่ผ่านมาดูจะคลุมเครือ ค่ายรถไม่สามารถดำเนินงานคล่องตัวมากนัก แต่เชื่อว่ากำลังซื้อของลูกค้ายังคงมีอยู่ปริมาณมาก ดังนั้นการที่ค่ายรถจะกระตุ้นตลาดก็คือ การจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงกำลังซื้อออกมา ซึ่งเห็นว่ายังมีอยู่หลายช่องทาง

"ยังมีช่องทางอีกมากที่จะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายของลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่หลายๆ อย่างเริ่มมองเห็นความกระจ่างชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นช่วงจังหวะที่ดี"

ทั้งนี้ แนวทางกระตุ้นตลาดของมาสด้า มีหลายอย่าง เช่น การเกาะกระแสฟุตบอลโลก กับแคมเปญ "เรดดี้ ฟอร์ บราซิล" หรือ โครงการ "สตาร์ซอคเก้อร์ แจกโชคบอลโลก" เป็นต้น รวมไปถึงแคมเปญทางการเงิน "มาสด้า แม็กซ์ ดีล" เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

"มองว่านับจากนี้เป็นต้นไปตลาดรถยนต์กำลังจะกลับมามียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังคงความแข็งแกร่ง กำลังซื้อของลูกค้าที่มีอยู่จำนวนมาก รวมทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น"



Tags : ยานยนต์ • รถยนต์ • ยอดขาย • ส.อ.ท. • จักรยานยนต์ • ฮอนด้า • มาสด้า