4 โครงการของ สำนักงาน กสทช. ที่ คสช.สั่งชะลอการดำเนินการออกไปชั่วคราว ประกอบด้วย โครงการประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ 2 ใบอนุญาต วงเงิน 23,200 ล้านบาท ,โครงการประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์อีก 2 ใบอนุญาต วงเงิน 19,700 ล้านบาท ซึ่งมีรายงานว่า ทั้ง 2 โครงการ อาจมีการกำหนดเงื่อนไขทีโออาร์ที่เอื้อต่อเอกชนบางราย นอกจากนี้ ยังมีสั่งให้ชะลอโครงการ แจกคูปองสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิทัล 25 ล้านครัวเรือน มูลค่า 25,000 ล้านบาท ที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับมูลค่าคูปองที่อาจสูงเกินจริง รวมถึงที่มาครัวเรือนที่จะแจกให้ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนโครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงที่ควบรวมกรณีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง การบริการด้านเสียง และการบริการโทรคมนาคมเพื่อคนพิการ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความคุ้มค่าการลงทุน และการกำหนดทีโออาร์ที่ไม่ทำให้เกิดการแข่งขัน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ในวันนี้(18 มิ.ย.) จะนำเรื่องทั้งหมดเสนอที่ประชุมบอร์ด กสทช. รับไปพิจารณา ตามนโยบายของ คสช. รวมถึงจะพิจารณาข้อเสนออื่นๆ ที่เหมาะสม เพื่อเสนอให้ คสช.เห็นชอบอีกครั้ง ส่วนกรณีปัญหาการคืนกล่องซันบอกซ์ ของบริษัทอาร์เอส เจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในประเทศไทย มีรายงานว่า มีผู้บริโภคร้องเรียนว่า ระยะเวลาการรับคืนกล่องที่กำหนดให้คืนได้เพียง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-18 มิถุนายน มีระยะเวลาที่สั้นเกินไป รวมถึงช่องทางการรับคืน ที่เปิดให้นำไปคืนได้ด้วยตัวเองที่โกดังสินค้า ย่านรังสิต และการส่งทางไปรษณีย์ ไม่อำนวยความสะดวกต่อการคืนสินค้า และขาดการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้กล่องได้รับทราบอย่างทั่วถึง นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทอาร์เอส ชี้แจงข้อร้องเรียนว่า อาร์เอสได้เปิดช่องทางการคืนกล่องทั้งที่โกดังสินค้า และส่งทางไปรษณีได้ ซึ่งเชื่อว่า จะมีประชาชนคืนกล่องจำนวนไม่มากนัก เพราะผู้ที่ซื้อกล่องจะได้สิทธิในการรับชมทั้งการถ่ายทอดสด รายการไฮไลท์ รวมถึงเทปบันทึกภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกด้วย