ผู้ตรวจการแผ่นดินประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางช่วย นายวีระ สมความคิด เล็งขอพระราชทานอภัยโทษ เน้นช่องทางตามกฎหมาย นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด ที่ถูกคุมขังในเรือนจำเปรย์ซอร์ ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 ตามคำร้องขอของ นางพิศอำไพ สมความคิด ภรรยา โดยได้เชิญคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กระทรวงการต่างประเทศ กรมราชทัฑณ์ รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชน มาร่วมหาแนวทางช่วยเหลือในการโอนตัวกลับมารับโทษต่อในประเทศไทย ที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้หาแนวทางช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง แต่ติดขัดข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจาก นายวีระ ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคง จึงไม่สามารถโอนตัวมารับโทษในประเทศไทยได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นตรงกันสนับสนุนให้ใช้ช่องทางช่วยเหลือตามกฎหมายกัมพูชา โดยให้กระทรวงการต่างประเทศประสานไปยังรัฐบาลกัมพูชา เรื่องการช่วยเหลือทั้งการขอลดโทษ ซึ่ง นายวีระ เคยได้รับการลดโทษแล้วครั้งหนึ่ง เหลือต้องรับโทษอีก 7 ปี 6 เดือน และต้องรอโอกาสวันสำคัญ คือ วันขึ้นปีใหม่ และวันลอยกระทงของกัมพูชา จึงจะสามารถดำเนินการขอลดโทษได้อีก นอกจากนี้ ยังมีอีกช่องทาง คือ การขอพระราชทานอภัยโทษ แต่กรณีนี้ต้องได้รับโทษอย่างน้อย 2 ใน 3 แต่ นายวีระ ต้องรับโทษอีกกว่า 1 ปีครึ่ง จึงจะเข้าเงื่อนไขดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางไทยจะเคารพการตัดสินใจของกัมพูชา เน้นความช่วยเหลือตามช่องทางกฎหมาย เพราะ นายวีระ ได้รับมาโทษมาแล้ว กว่า 3 ปี 6 เดือน ส่วนการที่จะขอความช่วยเหลือจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ให้เป็นดุลยพินิจของกระทรวงการต่างประเทศ เพราะไม่อยากให้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขณะที่ นายปรีชา สมความคิด น้องชาย นายวีระ เปิดเผยว่า การดำเนินการในครั้งนี้ จะสามารถช่วย นายวีระ ได้ โดยเจตนารมณ์ของครอบครัวต้องการให้ทั้งสองประเทศเกิดความสัมพันธ์ที่ดี ดังนั้น ที่ผ่านมาจึงไม่มีการยื่นอุทธรณ์ ต้องการให้ทุกอย่างดำเนินตามขั้นตอน ไม่ให้กระทบกับทั้งสองประเทศ โดยการช่วยเหลือหลังจากนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของผู้ที่เกี่ยวข้อง