กลุ่มบี.กริม เดินหน้าซื้อกิจการหลังปรับเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 5,000 เมกะวัตต์ใน 5 ปี กลุ่มบี.กริม เดินหน้าซื้อกิจการหลังปรับเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 5,000 เมกะวัตต์ใน 5 ปี จากเดิมตั้งเป้าไว้ 2,000 เมกะวัตต์ รับต้องใช้วิธีซื้อกิจการ ล่าสุดควัก 5.3 พันล้านบาทซื้อโรงไฟฟ้าจากไซม์ ดาร์บี้ เล็งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 2 ปีข้างหน้า ด้านไซม์ดาร์บี้ยันไม่ถอนการลงทุน แค่ลดการลงทุนหันไปเน้นธุรกิจหลัก นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มบี.กริม อยู่ระหว่างการหาทางเลือกในการระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตจาก 2,200 เมกะวัตต์ เป็น 5,000 เมกะวัตต์ใน 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2562 โดยแนวทางหนึ่งที่ธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาคือการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเหมือนที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ซึ่งหากมีความเป็นไปได้บริษัทคาดว่าภายใน 2 ปีข้างหน้าบริษัทจะสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้บริษัทมองว่าความต้องการใช้พลังงานในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะมีกำลังการผลิตที่ 2,000 เมกะวัตต์ภายใน 5 ปีข้างหน้า และสามารถทำได้ตามเป้าหมายแล้ว จึงขยับเป้าหมายดังกล่าวเป็น 5,000 เมกะวัตต์ โดยรูปแบบหนึ่งในการขยายกำลังการผลิตที่มองไว้คือการเข้าไปซื้อกิจการ และการออกไปขยายการลงทุนในต่างประเทศ เช่นในพม่าเป็นต้น ล่าสุดบริษัท บี.กริม. เพาเวอร์ ได้เข้าซื้อโรงไฟฟ้า 2 แห่ง จาก บริษัท ไซม์ ดาร์บี้ พีทีอี เอนเนอร์จี จำกัด (Siam Darby Energy Pte. Ltd.) บริษัทในกลุ่มธุรกิจพลังงานจากประเทศมาเลเซีย ด้วยเงินลงทุนกว่า 5.3 พันล้านบาท ซึ่งการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าครั้งนี้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ บี.กริม เพาเวอร์ ขึ้นอีก 163 เมกะวัตต์ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 733 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 896 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้า ให้กับลูกค้าในนิคมฯ “การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัท ที่จะขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP Cogeneration) อันดับต้นของประเทศไทย โดยโรงไฟฟ้าที่ทาง บี.กริม มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีการผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังการผลิต นับตั้งแต่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ของแต่ละโรงไฟฟ้า โดยจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและจำหน่ายไฟฟ้ารวมทั้งไอน้ำให้แก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง” ทางด้านนางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีการเข้าควบรวมกิจการ โดยการซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท ไซม์ ดาร์บี้ เพาเวอร์ จำกัด (SDPC) บริษัท ไซม์ ดาร์บี้ แอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (SDLP) และ บริษัท ไซม์ ดาร์บี้ โอ แอนด์ เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด (SOMT) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ไซม์ ดาร์บี้ เอนเนอจี จำกัด (Sime Darby Energy Pte. Ltd.) จะทำให้ บี.กริม เพาเวอร์ มีรายได้เติบโตขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เดิมว่าจะมีรายได้รวมในปี พ.ศ.2557 อยู่ที่ประมาณ 19, 000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 23,200 ล้านบาท และมีโรงไฟฟ้าที่เปิดให้ดำเนินการแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 8 โรง กำลังการผลิตรวม 896 เมกะวัตต์ ทั้งนี้การซื้อขายกิจการดังกล่าวมีธนาคารซีไอเอ็มบีไทยเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และอยู่ระหว่างการขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้ง 4 แห่งที่ยื่นข้อเสนอเข้ามา ดาโต๊ะ เจาฮารี ฮามีดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านพลังงานและสาธารณูปโภค ไซม์ ดาร์บี้ กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจอีกเป็นจำนวนมากในประเทศไทย การขายโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงของกลุ่มไซม์ ดาร์บี้ ไม่ได้เป็นการถอนเงินลงทุนออกจากประเทศไทยแต่อย่างใด แต่เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเน้นธุรกิจหลักตามการปรับกลยุทธ์ของบริษัท โดยในปัจจุบันธุรกิจของบริษัท ไซม์ ดาร์บี้ ในประเทศไทยที่นอกเหนือไปจากกลุ่มพลังงานนั้นประกอบด้วย น้ำมันพืชมรกต ธุรกิจปาล์ม และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย อาทิ ฟอร์ด มาสด้า และ บีเอ็มดับบลิว เป็นต้น Tags : กลุ่มบีกริม • โรงไฟฟ้า • ซื้อกิจการ