ดูเหมือนกรณี ว่าที่ พ.ต.นพพร อินทรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "ศรีธนญชัย 555+" จะฆ่าตัวตาย ยังไม่จบ เมื่อล่าสุด นายสุรชัย เที่ยงธรรม ผู้จัดการฝ่ายผลิต (Production Manager: PM) ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก Surachai Thiangtam ถึงกรณีดังกล่าวว่า ภาคแรก ต้องอ่านให้จบนะครับ.....จะพูดถึงหนังเรื่องหนึ่งที่กำลังมีปัญหา ณ ขณะนี้ เพราะมันมีปัญหาที่ต้องตอบคำถามกับสังคม เพื่อนฝูง และผู้ใหญ่หลายคน.... 1. เขาทำหนังแล้วเจ๊งไป 40 ล้าน ...!!?? ขอบตอบว่า ยังไงมันก็ไปถึงครับ ตัวเลข 80 เปอร์เซ็น ผมเห็นหมดนับสามรอบก็ไม่ถึง.. สิ่งที่ต้องมาพูดเพราะเรื่องจริงแล้ว ด้วยค่าตัวอันน้อยนิดแต่ผมทำด้วยใจจริงๆ คุณตัดสินใจทำกันก่อนๆ ที่ผมจะเข้ามา...หนังเล็กๆ งบ 5 ล้านโพสต์สัก 2 ล้าน..แม่จ้าวบทหนัง 160 ฉาก ถ่าย 25 วัน..ทั้งนายทุนและผู้กำกับก็รู้ ผมบอกให้ปรับบท ลดคิวถ่ายก็ไม่เอา..เงินที่ไหนมันจะพอๆ เงินจะหมดก็เอาทรัพย์สินไปจำนอง..เอาเงินมาทำหนัง..มูลค่าทรัพย์อาจจะสูงแต่คุณไม่ได้ขายเอาเงินมาลงทั้งหมดเพราะฉะนั้นอย่า...มาพูดว่าเจ๊ง40ล้าน 2. ไม่มีใครโกงครับ ผัวเป็นผู้กำกับ เมียเป็นบัญชี น้องเมียเป็นนายทุน ผัวน้องเมียเป็นประธานบริษัท. แล้วใครจะมาโกง ผมแค่ทำตัวเลขส่งไม่เคยจะมีเงินผ่านมือทีมงานนอกจากค่าตัว.... เพราะฉะนั้นเวลาพูดอย่าอ้างทีมงาน..ไม่ใช่คนอย่างพวกคนที่คิดแต่จะมากอบโกยพอเจ๊งแล้วโวยวาย..เข้าใจตรงกันนะเดียวอ่านต่อภาค2 ภาคสอง บอกแล้วนะว่าให้แก้ข่าว เพราะเล่นแบบนี้มันไม่ดีต่อหนังของตัวเองและทีมงาน..จะกระโดดแต่ไม่โดด....แล้วมี prไป และนักข่าวมา (คนจะกระโดดตึกเ-ือกโทรหาpr) จนนักข่าวมาจึงลงเหมือนจัดฉาก..... มีใครคิดให้หรือเปล่าผมไม่ทราบ (คุณกบเป็นคนนิสัยดีจริงๆ)...โดยเฉพาะ "ทีมงาน" คือผู้เข้ามาทำงานโดยได้ค่าตัวหรือค่าแรง โดยเพราะหนัง ทีมงานจะได้ค่าตัวกันไม่มาก....แต่คุณทะเลาะกับใครก็พูดชื่อกันตรงๆ อย่าเอาทีมงานเข้าไปเกี่ยวข้อง....ทีมงานหนังจริงๆ แล้วคือกรรมกร แบ่งเป็นแผนกๆ ไป เจ้านายสั่งให้ผสมปูน ก่อ ฉาบมันก็ทำ.....ซึ่งคุณบอกว่าทีมพี่เชียรๆ ผมไม่ใช่ทีมพี่เชียร (ผกก.) เพราะผมเพิ่งรู้จักเขาปีกว่าๆ และก็รู้จักคุณ (นายทุน) เป็นคนต่อไป ผมไม่เคยร่วมงานกันกับคุณวิเชียร เรื่องนี้จึงเป็นเรื่อกแรก....หลังจากนั้นก็เข้าออฟฟิส.....แต่ที่ต้องพูดเรื่องทั้งหมดก็คือคุณโทษแต่ทีมงานๆๆๆเป็นแบบนี่ต่อไปจะมีใครจ้างผมไหม,!!!???" ใครจะจ้างทีมที่ทำหนังเจ๊งและมีข่าวเรื่องโกงหรือหลอกนายทุนมาทำ..." ตัวละครจริงในเรื่องนี้มีแค่ 2ตัว คือ"นายทุนและผกก." ซึ่งไม่ค่อยจะมีใครเห็นหน้า ?!! คนที่จะกระโดดตึก คือ สามีนายทุน คนที่ชูป้ายเสื้อดำตัวเล็กคือคนรับใช้ เสื้อขาวเหมือนคุณนาย คือ แม่นักแสดง แต่ดันไปนั่งออกสื่ออออ... ส่วนใครหลอกใครผมไม่รู้ "รู้แต่รวมหัวกันทั้งคู่ ว่าจะสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา".. ประเด็นที่ 1 สำหรับนายทุน จะทำอะไรก็ต้องศึกษาให้ถ่องแท้เพราะมันเป็น ธุรกิจ มันเล่นกับเงิน....แม้กระทั่งการขาย "ก๋วยเตี๋ยว "ก็ต้องรู้ตั้งแต่ซื้อวัตถุดิบ หั่นผักลวกเส้น ใส่หมูใส่ไก้ให้น่ากิน จนถึงติดป้ายร้าน ล้างจาน และทำอย่างไรจะให้คนมากิน ก๋วยเตี๋ยวร้านคุณ....ไม่ใช่ "เหงียนอยากจะทำก็ทำ" ประเด็นที่ 2 สำหรับผกก. ทำอะไรอย่าหมกเม็ดต้องยอมรับความจริง..จะทำหนังต้องพูดให้หมด อย่าสร้างวิมานในอากาศให้นายทุนเคลิ้มจนควักเงินมาลง ต้องชี้แจงตัวเลขให้ชัดเจน มีความเป็นลูกผู้ชายแต่ถ้า "ใจจิ๋มมด" อย่ามาเป็น ผกก. เลย!!!....?? จริงๆๆแล้วคุณต้องบอกกับนายทุนก่อนที่จะสร้างว่า "หนังเรื่องนี้ถ้าจะทำมันต้องเจ๊งแน่ๆสัก 10 ล้าน แต่ถ้าให้ผมกำกับผมจะทำสุดความสามารถให้เจ๊งน้อยที่สุด.!!!!!.. ถ้าเจ๊งสัก 8 ล้านพอไหม ถ้านายทุนพยักหน้าว่าฉันยอมเจ๊งเพื่อชื่อเสียงมันก็จบ...! พรุ่งนี้ถ่ายทำเลย5555" ถ้าพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องมาทะเลาะกันไม่เหนื่อยคนอื่นเพราะรู้ตัวเจ๊งแน่ๆทั้งคู่ก่อนที่จะสร้างหนัง.......แต่ตอนนี้ปิดไลน์ปิดเฟซบุ๊กไม่ค่อยรับโทรศัพท์. ปัดทุกอย่างออกจากตัว "ไม่รับผิดชอบ ไม่แก้เรื่องๆที่คุณผูกขึ้นมาตั้งแต่ต้น "...ด้วยความเคารพ...