'สุเทพ' เบิกความยันมีผู้ก่อการร้ายในที่ชุมนุม นปช. ปี 53 จึงสั่งพลซุ่มยิงควบคุมสถานการณ์-ไม่ใช่ฝีมือ เจ้าหน้าที่รัฐยิง ปชช. จนมีคนตายจำนวนวนมาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตามที่ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนดีเอสไอ รวม 4 คน ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ, ความผิดต่อเจ้าพนักงาน และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดย นายสุเทพ เบิกความต่อศาล ต่อจากนัดที่ผ่านมา โดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ได้มีผู้ก่อการร้ายปะปนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. โดยอยู่บนที่สูงใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุม จึงสั่งการให้พลซุ่มยิง ออกปฏิบัติหน้าที่เพื่อยับยั้งกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งกรณีนี้มีเฉพาะวันที่ 10 เมษายน เท่านั้น และไม่เคยได้รับรายงานว่า พลซุ่มยิงมีการยิงผู้อื่นจนเสียชีวิตในเหตุการณ์กระชับพื้นที่ แต่ยอมรับว่าทราบว่า มีผู้ชุมนุมถูกยิงที่ศรีษะเสียชีวิต ทั้งนี้ ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ในการเข้ากระชับพื้นที่ เมื่อเวลา 18.50 น. แต่เจ้าหน้าที่ยังถูกผู้ก่อการร้ายดักยิงซุ่มโจมตีอยู่ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ เพื่อป้องกันตัวเอง และได้มีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ 20.20 น. แต่เจ้าหน้าที่ถูกขัดขวางไม่สามารถถอยร่นได้ อย่างไรก็ตาม ในวันดังกล่าวตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่รับทราบจากรายงานของเจ้าหน้าที่ในวันถัดมา ว่ามีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ทหารยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่แม้แต่ศพเดียว