สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเตรียมดึงรัฐ-เอกชนจัด"ไทยแลนด์โรดโชว์"ในต่างประเทศก.ค.นี้หวังดึงเชื่อมั่นต่างชาติ นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ ในฐานะประธานคณะกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทยมีแผนจะจัดไทยแลนด์โรดโชว์ เพื่อออกไปพบปะและชี้แจงข้อมูลทั้งด้านการเมือง และเศรษฐกิจให้กับนักลงทุนต่างชาติ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยจะรอให้มีรายละเอียดของแผนงาน หรือ โรดแมพที่ชัดเจนก่อน คาดว่าจะเริ่มโรดโชว์ได้ในเดือนก.ค.ปีนี้ ทั้งนี้การจัดโรดโชว์ข้างต้น อยู่ระหว่างการประสานงานกับภาครัฐ ทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รวมถึงภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารหรือซีอีโอบริษัทขนาดใหญ่ “การโรดโชว์ในครั้งนี้จะเน้นให้ข้อมูลในภาพรวมของประเทศ มากกว่าให้ข้อมูลทางด้านตลาดทุน หรือแผนการดำเนินธุรกิจของบจ.รายบริษัทเหมือนการโรดโชว์ปกติ ซึ่งในส่วนของซีอีโอบริษัทเอกชนนั้น จะมีส่วนช่วยในการให้ข้อมูลเรื่องการทำธุรกิจ ว่าหลังการเปลี่ยนแปลงทำธุรกิจได้ดีขึ้น สะดวกหรือไม่สะดวกอย่างไร โดยนักลงทุนต่างชาติมีความคุ้นเคยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นอย่างดี จึงน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้” เขากล่าวต่อว่า มีความเป็นได้สูงที่จะเห็นการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจ และคาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น หากนโยบายต่างๆ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศออกมา เริ่มนำมาสู่การปฏิบัติจริง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาเติมโต จากปัจจุบันที่คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตในระดับ 1.5 % และดัชนีสิ้นปีอยู่ที่ระดับ 1,500 จุด “ถ้าแผนงานต่างๆ นำมาสู่การปฏิบัติจริง การส่งออกของไทยปรับตัวดีขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ทั้งปีโตได้ในระดับ 3% เช่นเดียวกับภาพรวมตลาดหุ้นไทย แม้ว่าจะเห็นการพักฐาน และในระยะ 1-2 เดือนนี้จะยังไม่เห็นการปรับขึ้นแรง แต่หากแผนงานต่างๆเดินหน้า ความเชื่อมั่นก็จะมากขึ้น ดัชนีก็จะปรับขึ้นตามความเชื่อมั่น” ด้านนางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) และนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นได้ เพราะที่ผ่านมาแม้ไม่มีความชัดเจนว่าประเทศจะไปในทางใด แต่หลังการรัฐประหารทำให้มีมาตรการต่างๆ ออกมา ทำให้เริ่มเห็นทิศทางการพัฒนาประเทศที่ชัดเจน รู้ว่าจะมีรัฐบาลภายในกี่เดือน ทำให้ความมั่นใจเริ่มกลับมา กำลังซื้อในประเทศดีขึ้น ภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะซึมลง ก็สามารถยืนในระดับเดิม และมีโอกาสเติบโตต่อในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตามขณะนี้จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทยเริ่มมีการพักฐาน หลังปรับขึ้นต่อเนื่องจนมาอยู่ในระดับ 1,450 จุด ซึ่งเป็นเป้าหมายของปีนี้แล้ว เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการต่อไป หรือการนำแผนงานทางด้านเศรษฐกิจ หรือโรดแมพไปปฏิบัติจริง พร้อมกับรอดูผลการดำเนินงานบจ. และตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 “หลังมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ และกำไรบจ.ในช่วงไตรมาส 2 คงได้เห็นการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจ และดัชนีเป้าหมายของปีนี้ทั้งปีขึ้น ไปอยู่ในระดับก่อนที่จะมีการปรับลดคาดการณ์ลง จากปัญหาทางการเมืองในประเทศ โดยมองว่าดัชนีสิ้นปีนี้จะไปอยู่ในระดับ 1,500 จุดได้ เพราะแนวโน้มมีโอกาสที่จะปรับขึ้น มากกว่าปรับลง ดังนั้นแม้ว่าดัชนีจะพักฐาน ก็ไม่แนะนำให้ขาย หากไม่ทยอยซื้อเพิ่ม ก็ให้ถือหุ้นไว้ก่อน” เธอกล่าวต่อว่า สำหรับความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาตินั้น มองว่าการลงทุนของต่างชาติจะกลับมาเต็มที่ก็ต่อเมื่อเห็นกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล รัฐสภาและวุฒิสภา พร้อมกับเห็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนช่วงไตรมาส 2 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติ และหากยกเลิกกฎอัยการศึก หรือเคอร์ฟิว ก็จะยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ลดความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง Tags : ไพบูลย์ นลินทรางกูร • สภาธุรกิจตลาดทุน • เศรษฐกิจ • โรดโชว์ • ต่างชาติ • ความเชื่อมั่น