'ปานปรีย์'ไขก๊อกประธานปตท. เปิดทางคสช.ปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ เผยจะลาออกตั้งแต่วันคสช.ยึดอำนาจ "ปานปรีย์"ยื่นลาออกประธานบอร์ดปตท.ยันไม่มีแรงกดดัน ต้องการเปิดทางให้คสช.เข้ามาปฏิรูปรัฐวิสาหกิจอย่างจริงจัง "ประจิน" เชิญทุกฝ่ายถกพลังงาน หวังเป็นข้อมูลพื้นฐาน ปรับโครงสร้างพลังงาน "รสนา" ค้านปรับลดราคาพลังงานด้วยการลดภาษี ชี้เป็นประชานิยม นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตประธานคณะกรรมการบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าวานนี้(15มิ.ย.) ตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดปตท.แล้ว คงจะมีผลวันนี้(16มิ.ย.) โดยนายปานปรีย์ ให้เหตุผลการยื่นหนังสือลาออกจากประธานบอร์ดปตท.ว่า เพราะต้องการเปิดทางให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้มีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจตามนโยบายของคสช.ที่ประกาศไว้ ยืนยันไม่ได้มีแรงกดดันใดๆจากใครทั้งสิ้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น ตนในฐานะที่มาจากทางการเมืองก็ต้องออกไปในเมื่อการเมืองเปลี่ยนไป และผ่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายครั้งแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปตท.เป็นองค์ใหญ่และสำคัญมาก หากคสช.เห็นว่ามีความสำคัญที่จะต้องปฏิรูปรัฐวิสาหกิจถือเป็นสิ่งที่ดี ที่จะทำให้องค์กรใหญ่อย่างปตท.สามารถเดินหน้าจะเติบโตได้ สำหรับนายปานปรีย์ได้รับการแต่งตั้งจากบอร์ดปตท.เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2556 ให้เป็นประธาน จากนั้นวันที่ 5 ก.ค.2556 บอร์ดก็ได้อนุมัติตำแหน่งประธานบอร์ดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ดังเป็นเวลาเกือบ 1 ปีที่นายปานปรีย์เข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ดปตท. ซึ่งก็มีหลายเรื่องที่นายปานปรีย์ ได้ให้นโยบายกับปตท. โดยเฉพาะการบริหารงานเพื่อสร้างความโปร่งใส เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท.มักจะถูกสังคมไม่ไว้วางใจในการบริหาร ที่ยังมองว่าไม่โปร่งใส ที่สำคัญเป็นองค์กรที่มักถูกการเมืองครอบงำมาตลอด เผย"ปานปรีย์"คิดยื่นลาออกเมื่อ22พ.ค.57 แหล่งข่าวจากปตท. กล่าวว่าหลังจากมีคสช.เข้ามาบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 นายปานปรีย์ ก็ได้ตัดสินใจตั้งแต่วันนั้นแล้วที่จะลาออกจากประธานบอร์ดปตท. เพราะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงการบริหารประเทศใหม่ ในฐานะที่มาจากทางการเมืองก็ต้องออกไป เพื่อเปิดทางให้กับคสช.ได้ส่งผู้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารแทน "ท่านปานปรีย์บอกว่าในเมื่อการเมืองบริหารประเทศคนที่เข้ามาก็มาจากทางการเมือง แต่เมื่ออำนาจการบริหารเปลี่ยนไปเราก็ต้องออก อย่าไปติดยึดกับตำแหน่ง "แหล่งข่าวระบุ แหล่งข่าว กล่าวอีกว่านายปานปรีย์ คิดที่จะยื่นลาออกมาตั้งแต่หลังคสช.เข้ามาบริหาปรระเทศ และได้ปรึกษากับผู้ใหญ่บางท่านโดยเสนอไปว่าขอลาออก แต่ผู้ใหญ่ยังไม่ตัดสินใจ มาวานนี้(15มิ.ย.)ในเมื่อทุกอย่างยังเงียบนายปานปรีย์จึงได้ตัดสินใจยื่นใบลาออก เพราะไม่ต้องการให้เข้าใจผิดว่าอยู่เพื่อผลประโยชน์ใดๆ "ประจิน"ถกวงใหญ่ผู้เกี่ยวข้องพลังงาน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับผิดชอบฝ่ายเศรษฐกิจ เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวกับพลังงาน อาทิ กระทรวงพลังงาน บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. สำนักงานกฤษฎีกา กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต พร้อมด้วยภาคเอกชนที่สนใจด้านพลังงาน อาทิ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แกนนำกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว. กทม. นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างไม่เป็นทางการ วานนี้(15มิ.ย.)ที่หอประชุมกองทัพอากาศ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงด้านราคาพลังงาน ก่อนนำไปสู่การปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่จะแล้วเสร็จในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ พล.อ.อ.ประจิน ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือว่าได้เชิญผู้ที่มีความคิดเห็นต่างเกี่ยวกับเรื่องพลังงานมาพูดคุยหารือ เพื่อเป็นข้อมูลเป็นพื้นฐานในการปรับโครงสร้างพลังงาน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อเสนอต่อหัวหน้าคสช. "รสนา"ค้านอุ้มพลังงานด้วยการลดภาษี น.ส.รสนา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือว่า ในฐานะกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานประเทศไทย (จพท.) ได้เตรียมประเด็นเน้นเฉพาะเรื่องราคาน้ำมันและก๊าซแอลพีจีเป็นหลัก ถ้าให้จะพูดเรื่องพลังงานโดยรวมจะมีหลายประเด็นใช้เวลา1 วันคงไม่จบ วันนี้คสช. ถือว่าปัญหาค่าครองชีพของประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องลดภาระ การพูดคุยจะเน้นเรื่องหลักการเป็นพื้นฐาน หากพูดคุยและหารือกันแล้วอาจจะมีการปรับฐานความคิดตัวเลขต่างๆว่าจะลดหรือเพิ่มอย่างไร การปรับโครงสร้างราคาพลังงานทางจพท. กำลังมองเรื่องนี้อยู่และไม่เห็นด้วยหากจะมีการปรับลดราคาพลังงานด้วยการลดภาษี ถือเป็นประชานิยม ซึ่งควรใช้เงินภาษีตรงนี้ไปบริหารประเทศมากกว่า ทั้งนี้ตนได้เตรียมข้อมูลปรับโครงสร้างราคาน้ำมันมา 3 ข้อ 1. ในส่วนของเนื้อน้ำมันควรลดค่าใช้จ่ายการสูญเสียระหว่างทาง เช่น การขนส่ง 2. เรื่องการตลาดควรกำหนดราคาหน้าปั้มน้ำมันโดยได้รับส่วนแบ่ง 75 สตางค์ต่อลิตร 3. เรื่องกองทุนน้ำมัน มองว่าหากมีการยุบกองทุนทิ้งไปจะทำให้ราคาน้ำมันแต่ละชนิดเขย่งกัน แต่มองว่าควรค่อยๆขยับ โดยเน้นก๊าซแอลพีจีเป็นหลัก น.ส.รสนา กล่าวว่าส่วนการจัดหาพลังงานทดแทน ทางกระทรวงพลังงานมีหน้าที่จัดหาพลังงานมาให้คนไทยด้วยความเป็นธรรม แต่ขณะนี้มีการนำก๊าซจากโรงงานแยกก๊าซที่มาจากอ่าวไทย ไปให้ปิโตรเคมีใช้ มองว่าไม่เป็นธรรมทั้งนี้การใช้พลังงานส่วนนี้ต้องยึดหลักภาคครัวเรือนเป็นสำคัญ หากสามารถดำเนินการได้ก็จะสามารถตัดกองทุนน้ำมันทิ้งไปได้ ส่วนความเป็นไปได้ที่พล.อ.อ.ประจิน เตรียมปรับโครงสร้างพลังงานให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นั้น น.ส.รสนา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ในช่วงการเริ่มต้น แต่ไม่อยากให้มองว่าจะต้องเสร็จภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ทันที การดำเนินการอาจจะทำที่ละขั้นตอน พร้อมทั้งดูเส้นทางการปรับให้เกิดความเป็นธรรม Tags : ปานปรีย์ พหิทธานุกร • ปตท. • โครงสร้างพลังงาน • คสช. • พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง • รสนา โตสิตระกูล