Square Enix โชว์เทคโนโลยีด้านการเล่นเกมบนกลุ่มเมฆตัวใหม่ชื่อ Project Flare ในห้องปิดที่งาน E3 2014 เดโมที่นำมาโชว์เป็น "โลกขนาดใหญ่" ที่กินพื้นที่ 32x32 ตารางกิโลเมตร (มีพื้นที่ใหญ่กว่าโลกในเกม Skyrim ถึง 17 เท่า) มีต้นไม้กว่า 600,000 ต้น ภูเขา สิ่งมีชีวิตต่างๆ จำนวนมาก ผู้เล่นสามารถสำรวจโลกนี้ได้จากมุมบนท้องฟ้าหรือจะผ่านสายตาของสัตว์ที่อยู่กับพื้นดินก็ได้ ทีมงาน Project Flare ใช้เวลา 6 เดือนสร้างโลกนี้ขึ้น โดยใช้โปรแกรมเมอร์ 2 คนและฝ่ายศิลป์เพียง 1 คนเท่านั้น (ทีมพัฒนาคือ Square Enix Montreal ในแคนาดา) ส่วนการประมวลผลทั้งหมดอยู่ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่แทนที่จะเป็นพีซีปกติ Jacob Navok ผู้บริหารของ Square Enix อธิบายว่าเกมในปัจจุบันใช้เทคนิคด้านกราฟิกในการ "หลอก" ผู้เล่นว่าโลกในเกมมีชีวิต แต่เทคโนโลยีของ Project Flare จะช่วยให้เราสร้างโลกที่มีชีวิตจริงๆ (actual living world) ขึ้นมาได้ เขายกตัวอย่างเกม MMO ว่าถ้าสร้างด้วย Project Flare เราจะสามารถสร้างเกมที่ผู้เล่นทุกคนอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เดียวกันหมด และเป็นโลกที่ผู้เล่นร่วมดัดแปลงแก้ไขได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องอัพเดตแพตช์เลย (การแฮ็กและโกงเกมก็ทำไม่ได้อีกต่อไป) Square Enix แสดงท่าทีชัดเจนว่า Project Flare เป็นเทคโนโลยีที่อยากขายไลเซนส์ให้บริษัทคู่ค้าอื่นๆ ใช้งานด้วย แต่บริษัทก็เตรียมประกาศข่าวของเกมที่สร้างด้วย Project Flare อย่างน้อยหนึ่งเกมภายในปีนี้ (หนึ่งในทีมงานของ Square Enix ที่อยู่ในโครงการนี้คือ Tetsuji Iwasaki ผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมเซิร์ฟเวอร์ให้ Final Fantasy XI) ที่มา - Polygon Square Enix, Games, Cloud Computing, MMO