ดาราสาวแตงโม - ภัทรธิดา เผยจิตใจดีขึ้น บอกเลยจุดทำใจมาแล้ว ปัดคุณพ่อเป็นกาวใจ รับฝ่ายชายเข้ามาเอาของแล้ว ลั่นปิดตายเรื่องความรัก อีก 5 ปีค่อยมาถามใหม่ ออกงานครั้งแรกหลังเจอมรสุมข่าวและผิดหวังกับเรื่องความรัก สำหรับดาราสาวแตงโม - ภัทรธิดา ล่าสุดเจ้าตัวก็เปิดใจพร้อมกับอัปเดตสภาพจิตใจให้ฟังว่า "วันนี้ถือเป็นงานแรกเลยนะคะ ก็สนุกสนานมากเลยค่ะ มีแฟนคลับมาให้กำลังใจเยอะเลย ในเรื่องของสภาพจิตใจดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ อยู่ที่เวลาด้วยค่ะ เวลาเรามีสติแล้วอะไรก็ดีขึ้น ต้องบอกว่าในเรื่องของการทำใจเนี่ย มันเลยจุดนั้นมาแล้ว ตอนนี้มันเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่าค่ะ ถามว่ายังคุยกันไหมก็คุยบ้าง คุยเรื่องราวสัพเพเหระมากกว่า ไม่ได้โทรคุย ถามว่าคิดถึงไหม คนที่เคยรักกันก็ยังคิดถึงอยู่ดี การเปลี่ยนสถานะก็ดีขึ้นค่ะ พอห่างกันก็ดีขึ้น กลับมาได้ไม่ใช่ในฐานะเดิม ก็อย่างที่เขาบอก ก็โอเค ไม่เคยรับไม่ได้นะคะ อนาคตอาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่คงไม่ใช่ในฐานะเดิม อีกอย่างทางบ้านเราก็ยังรู้สึกว่าเขายังเป็นคนในครอบครัว แต่อาจจะเปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันเท่านั้นเอง ยังไม่เจอหน้ากันเลยค่ะ แต่พ่อจะเจอมากกว่า แต่คุณพ่อโมและคุณแม่โน่ไม่ยุ่งเรื่องการตัดสินใจเลยค่ะ เศร้าไหม ไม่แล้วค่ะ มันผ่านจุดนั้นมาแล้ว ส่วนเรื่องข้าวของฝ่ายชายที่อยู่ที่บ้าน งานนี้เจ้าตัวก็ชี้แจงพร้อมเมินคนมองจัดข่าวสร้างกระแส "บอกไปแล้วค่ะ ว่าวันนี้ไม่อยู่เข้ามาเอาของได้ ก่อนหน้านี้เขาก็มาเอามอไซค์ไปแล้ว อย่างอื่นก็ยังอยู่ครบ มีแหวนแต่งงานอีกที่เขาเอาไปด้วย ต้องบอกว่าโมไม่เคยไม่โอเคกับการที่เขามาเก็บของ แต่เขาเป็นคนบอกเองว่าเขาไม่อยากเข้ามาเก็บของแล้วเจอโมอยู่ในบ้าน เดี๋ยววันไหนถ้าโมไปถ่ายละครไม่อยู่บ้าน จะบอกให้เขามาเก็บของอีกทีนะคะ เรื่องข่าวที่บอกว่าโมจัดแจงขึ้นมาเองไม่ขอพูดอะไรดีกว่า ไม่ขอให้ราคากับคนพวกนี้ล่ะกัน โมเฉย ๆ ดีกว่า มันเป็นทุกคนค่ะ คือเราคืนกันและกันให้สังคม เหมือนเป็นตัวอะไรเลยเน๊าะ ก็เป็นปกติที่คนอยากจะรู้เรื่องของเรา เขาก็งานเยอะ เราก็งานเยอะ ก็ต้องขอบคุณทุก ๆ คนที่ให้กำลังใจเราค่ะ ตอนนี้แข็งแรงมากเลยค่ะ โมก็ไม่รู้ว่าจบหรือเปล่านะ จากที่ยึดคำมั่นสัญญามาโดยตลอด มันทำให้ความคิดโมเปลี่ยนไปเป็นรักใครสักคนที่ไม่มีข้อแม้" ยังไม่พร้อมเปิดใจมีคนใหม่ และไม่คิดลบรอยสัก "ไม่เปิด ปิดตายค่ะ ถ้า ณ ช่วงเวลานี้นะคะ แต่อีก 5 ปีค่อยมาถามใหม่ล่ะกัน คือโมยังไม่พร้อมค่ะ จะเรียกว่าเข็ดก็ได้ค่ะ เรื่องรอยสักโมไม่เคยคิดที่จะเอาออกค่ะ แต่เขา เราก็ไม่รู้ เราไม่มีทางไปยุ่งเกี่ยวเรื่องการตัดสินใจของเขา แต่ที่เราเคยคุยกันเขาก็บอกว่าจะไม่เอาออกนะคะ ยังเคยแซวเลยว่ารอยสักชื่อที่อยู่บนตัวเขา ชื่อเรายาวกว่าชื่อเค้าที่อยู่กับเราซะอีก"