พล.อ.ประยุทธ์ แจง ลุยปราบพนันอาวุธยาเสพติด ย้ำ หลังเดือนกันยายนไปมีรัฐบาล ยัน ใช้งบประมาณโปร่งใส พบศก. ดีขึ้น ขณะเร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ ปมแรงงานต่างด้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวในรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ โดยได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าของการทำความเข้าใจในความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ การเร่งสร้างความปรองดอง โดยจะเร่งพิจารณายกเลิกเคอร์ฟิวว่าจะสามารถยกเลิกพื้นที่ใดได้อีกบ้างยืนยันว่าการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างยุติธรรม ทางด้านต่างประเทศก็มีความเข้าใจในสถานการณ์มากขึ้น โดยช่วงตุลาคมเป็นต้นไปจะมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ในด้านเศรษฐกิจ สังคม จะเน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โครงการใดที่ไม่เหมาะสมก็จะต้องยกเลิกไป และพบว่ามีการลงทุนมากขึ้น แสดงถึงความมั่นใจของนักลงทุน ในเรื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ในส่วนของค่าครองชีพ ซึ่ง คสช.ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ได้เชิญผู้ประกอบการมาร่วมหารือแล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือ ขณะที่การจ่ายเงินให้กับชาวนา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จตามที่ได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ กรณีแรงงานต่างด้าว ซึ่งพบว่าอีก 9 หมื่นคน ยังไม่ได้อยู่ในความควบคุมอย่างชัดเจน ซึ่งจะต้องมีการกำหนดกฎระเบียบให้ถูกต้องต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ เผย เร่งจับกุมอาวุธ ขอ ปชช. เคารพ กม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ว่า ในเรื่องงานด้านความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 2557 ที่มีการประกาศกฎอัยการศึก นั้น มีการจับกุมอาวุธปืนสงครามได้ 88 กระบอก ปืนเถื่อน ทั้งปืนพก ปืนลูกซอง ปืนผลิตเอง ทั้งสิ้น 1,268 กระบอก กระสุน 7,000 กว่านัด ลูกระเบิด วัตถุระเบิด 300 กว่าลูก และการจับกุมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศก็จะยังเร่งดำเนินการต่อไป ในส่วนการติดตามจับกุมกองกำลังติดอาวุธ มีความคืบหน้าไปมาก ทั้งกลุ่มการเมือง ธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่มุ่งเน้นการใช้กฎหมายปกติเป็นหลัก ในการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย บูรณาการหน่วยงานความมั่นคง ร่วมกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นย้ำใช้กฎอัยการศึกเท่าที่จำเป็น ขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัด ในส่วนผลของการสร้างความเข้าใจบุคคลที่มีความเห็นต่าง จากการเรียกบุคคลมารายงานตัวได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง และพร้อมสนับสนุนงานรักษาความสงบเรียบร้อย การปรองดองสมานฉันท์ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการปรองดองของมวลชนแล้ว 56 จังหวัด โดยงานสร้างความปรองดองระยะที่ 1 ปัจจุบันนั้น จะเริ่มตั้งแต่การลดความขัดแย้ง ให้ทุกคนได้มีโอกาสที่จะรับฟังความเห็นต่าง เพื่อให้เกิดการไว้วางใจซึ่งกันและกัน