หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ชี้แจงสื่อมวลชนต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ในไทย ชี้'ไทยยังปลอดภัย' เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ชี้แจงสื่อมวลชนต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ในไทย นำโดย นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ,นายไบรอัน ซินแคลร์ ทอมสัน รองประธาน นายกสมาคมธุรกิจการบินประเทศไทย ,นางวีเบคเก้ ลีแซนด์ แลร์วอก คอนเซลแวน ประธานหอการค้าไทย-นอร์เวย์ และนายเยบ สวี ชวน ประธานหอการค้าไทย - มาเลเซีย โดยมี นายวิทย์ สิทธิเวคิน เป็นผู้ดำเนินรายการ มีรายละเอียดดังนี้ วิทย์ : คุณมองประเทศไทยอย่างไรต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สแตนลีย์ : ผมคิดว่าภาคเอกชนยังคงปลอดภัยและไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เท่าที่ผ่านมายังไม่มีปัญหาใหญ่ การดำเนินธุรกิจทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ภาคการนำเข้า ส่งออก วัตถุดิบและการผลิตก็ยังเหมือนเดิม โดยรวมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก วิทย์ : สำหรับคุณไบรอัน มาจากภาคการท่องเที่ยว อยากให้เล่าถึงสภาพแวดล้อมธุรกิจขณะนี้ ไบรอัน : ความซบเซาที่เกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวประเทศไทยจากความไม่แน่นอนทางการเมืองตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้เราต้องมุ่งฟื้นคืนความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางแห่งเอเชีย เพราะกรุงเทพฯ มีทำเลที่ตั้งที่ดีซึ่งเราควรใช้จุดแข็งนี้ อันดับแรกเราต้องเร่งฟื้นฟูสนามบินในไทยให้พร้อมรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองต้องกลับมาคึกคักเช่นเดิม ขยายสนามบินภูเก็ต รวมถึงพัฒนาสนามบินเชียงใหม่และเชียงราย ผมอยากจะให้เราปรับความเข้าใจกับกลุ่มนักท่องเที่ยว แก้ไขมุมมองด้านลบด้วยการใช้คำพูดประชาสัมพันธ์ อธิบายให้ต่างชาติเข้าใจว่าภาคการท่องเที่ยวการโรงแรมทุกอย่างยังคงปลอดภัยและเป็นปกติ ปัญหาการเมืองกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับประเทศไทย สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเรา วิทย์ : แล้วจะสื่อสารกับต่างชาติถึงความปลอดภัยได้อย่างไร ไบรอัน : สิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้คือการเชิญชวนด้วยความมั่นใจให้เขามาประเทศไทย เข้ามาดูสถานการณ์ในไทยด้วยตัวเอง และรู้ว่าประเทศไทยมีความปลอดภัย วิทย์ : สำหรับคุณวีเบคเก้ ที่มาจากอุตสาหกรรมเพชรพลอย อยากให้พูดถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรม วีเบคเก้ : อุตสาหกรรมเพชรพลอยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยยังคงดำเนินการได้ตามปกติ โดยรวมอุตสาหกรรมยังคงปกติ เราไม่ได้ปิดการดำเนินการเลยแม้แต่วันเดียว ประเทศไทยเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว วิทย์ : สำหรับคุณเยบ ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งกำลังเติบโตในประเทศไทยมากว่า 30 ปี คุณมองสภาพแวดล้อมธุรกิจในประเทศไทยอย่างไร เยบ : ผมอยู่ในไทยมา 30 ปีแล้ว เห็นวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 สถาบันการเงินล้ม ธุรกิจล้ม พวกเราก็ล้มหมดในครั้งนั้น ผมคิดว่าเป็นช่วงที่ยากลำบากมากแต่ไทยก็ฝ่าฟันมาได้ และยังฝ่าวิกฤตอื่นอย่างวิกฤติเลห์แมน บราเธอร์ส รวมถึงวิกฤติมหาอุทกภัยซึ่งผมมาประสบด้วยตัวเอง โรงงานของผมถูกน้ำท่วมหนักนานถึง 40 วัน ตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะฟื้นตัวได้ ทุกคนพูดเหมือนกันว่ากว่าจะฟื้นได้ต้องใช้เวลานาน แต่การฟื้นฟูโรงงานใช้เวลาเพียง 60 วัน ผมสามารถกลับมาผลิตรถยนต์ได้ใหม่ใน 2 สัปดาห์หลังจากน้ำท่วม เศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจที่ทนทาน สามารถฟื้นตัวได้เร็ว เมื่อไรก็ตามที่เศรษฐกิจถูกกระทบ 10% จะสามารถฟื้นกลับมาได้ 15% จากประสบการณ์ของผม แล้วถ้าได้รับผลกระทบ 50% ก็จะกลับมา 75% ถ้ากระทบ 100% ก็จะกลับมา 150% ดังนั้นผมจึงมองประเทศไทยเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถมาก ยิ่งปัญหาใหญ่มาก คนไทยก็แก้ปัญหาได้เร็วมาก ทุกครั้งที่เกิดปัญหาคนไทยจะรวมกลุ่มและช่วยกันสะสางได้เร็วกว่าที่คาดคิดเอาไว้เสมอๆ ซึ่งผมเห็นมาด้วยตัวเอง สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ ผมในฐานะนักธุรกิจย่อมต้องการความปลอดภัย แต่ผมรู้สึกปลอดภัย ผมคิดว่าทุกคนก็รู้สึกปลอดภัยเช่นเดียวกัน เราเข้ามาในไทยเพื่อทำธุรกิจ และเราก็ต้องการให้ธุรกิจเจริญขึ้นเรื่อยๆ และจากประสบการณ์ของผมก็เป็นเช่นนั้น ถึงแม้เราจะผ่านวิกฤติมาหลายต่อหลายครั้ง ธุรกิจก็มีแต่เจริญขึ้น ดังนั้นในครั้งนี้ผมถึงมั่นใจว่าประวัติศาสตร์จะไม่ต่างไปจากนี้ เวลาไทยมีปัญหาคนไทยรวมกลุ่มกัน เราที่เป็นนักธุรกิจต่างชาติก็ต้องรวมกลุ่มกันฝ่าฟัน เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ เราเข้ามาลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ และมีบทบาทในสังคม วิทย์ : อยากให้พูดถึงแนวทางการฟื้นความเชื่อมั่นต่อนานาชาติ ไบรอัน : ในแง่ของธุรกิจท่องเที่ยว เราต้องชักชวนให้ต่างชาติเข้ามาสัมผัสสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทยด้วยตัวเอง จากแนวโน้มที่ตกต่ำลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราจำเป็นต้องรับรองความปลอดภัยกับต่างชาติ รวมถึงพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มแรงดึงดูดต่อการเข้ามาของนักท่องเที่ยว เช่น การเพิ่มเกทเวย์สนามบิน อย่างที่จีนกำลังจะสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 เพราะในอีก 5 ปีจะมีนักเดินทางมาลงถึง 200 ล้านคน ไทยเองก็เช่นเดียวกัน คาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทางมาเยือนไทยอีกเป็นจำนวนมากถ้าเราสามารถสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกมารองรับได้ วีเบคเก้ : เราจำเป็นต้องใส่ใจธุรกิจที่อยู่ในไทยขณะนี้ สร้างความเชื่อมั่นการลงทุนและธุรกิจเหล่านั้น จะเป็นเหมือนทูตในการโปรโมทต่อต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยในอนาคต เยบ : สำหรับผมความมั่นใจเป็นเรื่องของจิตใจ แล้วเราจะสร้างความเชื่อมั่นต่อชาวโลกได้อย่างไร คนไทยต้องส่งความมั่นใจให้ชาวโลก ตัวผมเองมั่นใจเพราะผมอยู่ที่นี่มานานผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ผมไปสิงคโปร์มาเมื่อวันก่อน ได้พูดคุยกับคนที่นั่น การพูดแบบปากต่อปากมีส่วนในการสร้างความเชื่อมั่น แต่การพูดกับคนทั้งโลกนั้นเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ บทวิจารณ์ของนักวิเคราะห์หรือผู้เชี่ยวชาญก็มีส่วนอย่างมากต่อความเชื่อมั่น เราจำเป็นต้องเริ่มการสื่อสารเพื่อสร้างความเชื่อมั่น สแตนลีย์ : คุณภาพชีวิต คือ คุณภาพของการสื่อสาร กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจะสื่อสารจากประสบการณ์ที่มี และในวันนี้เราเชิญสื่อต่างๆ มาร่วมงานแถลงเพื่อสื่อสาร เราพยายามสื่อสารอย่างดีที่สุดในการฟื้นคืนภาพลักษณ์การลงทุนต่อสหายของเราในต่างประเทศ Tags : หอการค้า • ต่างประเทศ • สแตนลีย์ คัง • ไบรอัน ซินแคลร์ ทอมสัน • เยบ สวี ชวน • ไทย