โบรกเผย'วอลุ่มเทรด'ต่างชาติร่วง

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 มิถุนายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เผยต่างชาติชะลอเทรดหุ้นไทย สัดส่วนซื้อขายวูบเหลือ 20% ชี้ต่างชาติหยุดซื้อเพราะหุ้นไทยราคาสูง

    ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการลดระดับการซื้อขายหุ้นไทยลงหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติ คิดเป็น 20% จากส่วนแบ่งมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด โดยขายสุทธิหุ้นไทย 14,325.34 ล้านบาท แต่หากพิจารณาจากต้นปีจะพบว่านักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้น 33,316.47 ล้านบาท มีสัดส่วนการซื้อขาย 27%

    เมื่อตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ต่างชาติ พบว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ จากต้นปีจนถึงวันที่ 21 พ.ค.วันที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เทียบกับหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจนถึงวันที่ 10 มิ.ย. พบว่า ส่วนแบ่งทางการตลาด (มาเก็ตแชร์) ของบริษัทหลักทรัพย์ต่างชาติลดลง โดยบล.เครดิตสวิส (ประเทศไทย) มีมูลค่าการซื้อขายเป็นอันดับ 7 ของบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด โดยมีมาเก็ตแชร์ที่ 4.52% ลดลงจากก่อนการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่เคยอยู่อันดับ 2 มาเก็ตแชร์ 6.48%

    ขณะที่ บล.ซีแอลเอสเอ มีมาร์เก็ตแชร์อยู่อันดับที่ 24 คิดเป็น 1.89% โดยหล่นลงมาจากอันดับ 20 ซึ่งขณะนั้นมีมาเก็ตแชร์ที่ 2.36% บริษัทเจพีมอร์แกน (ประเทศไทย) อยู่อันดับที่ 29 มีมาเก็ตแชร์ 0.96% หล่นจากอันดับ 25 มาเก็ตแชร์ 1.39%

    สำหรับ 3 อันดับมาเก็ตแชร์สูงสุดจากต้นปีถึงวันที่ 11 มิ.ย. พบว่า บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นอันดับที่ 1 มีมาเก็ตแชร์ 9.50 % อันดับ 2 บล.กสิกรไทย มาเก็ตแชร์ 6.35 % อันดับ 3 บล.เครดิตสวิส (ประเทศไทย) มาเก็ตแชร์ 6.08%

    นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอซื้อหุ้นไทยมาระยะหนึ่ง หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยนักลงทุนต่างชาติไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ แต่มองว่าหุ้นไทยนั้นแพงเกินไป ไม่น่าสนใจเข้ามาลงทุน

    "การที่ต่างชาติชะลอลงทุน ไม่ได้กังวลกับสถานการณ์การเมือง เพราะเขาเข้าใจธรรมชาติของเมืองไทยอยู่แล้ว และมองว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้น นโยบายเศรษฐกิจเดินหน้าได้ เห็นได้จากการขายหุ้นช่วงต้นของสถานการณ์ไม่ได้มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นที่อยู่ในมือ ทำให้ผู้เล่นหลักในตอนนี้กลับเป็นนักลงทุนสถาบัน ที่หันมาซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง"

    เขากล่าวด้วยว่า นักลงทุนต่างชาติมองว่าหุ้นไทยแพงเกินไป ไม่ว่าจะเป็นหุ้นรับเหมาก่อสร้าง หุ้นกลุ่มที่อ้างอิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และยิ่งหลายประเทศทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย มีการพัฒนาการเศรษฐกิจที่ดี ทำให้เงินทุนไหลไปในประเทศเหล่านี้มากกว่าแม้ระยะสั้น จะมีเงินทุนไหลกลับมาบ้าง แต่มองว่ามูลค่าการซื้อขายไม่ได้หนาแน่น และมีโอกาสที่เขาจะเทขายทำกำไรออกมาได้เช่นกัน

    สำหรับในระยะต่อไปเรามองว่า นักลงทุนต่างชาติยังให้ความสนใจในหุ้นไทย หากนโยบายเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางโรดแมพและเริ่มมีพัฒนาการชัดเจน อีกทั้งราคาหุ้นไทยเริ่มถูกลง โดยหุ้นที่ต่างชาติให้ความสนใจ คือ หุ้นที่เติบโตได้ในระยะกลางและระยะยาวกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ที่ราคาหุ้นยังถูกและมีแผนการปฏิรูปพลังงานให้ราคาต่ำลง

    Tags : ปริญญ์ พานิชภักดิ์ • ตลาดหุ้น • ต่างประเทศ • นักลงทุน

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้