หากเอ่ยถึงชื่อ มิน พีชญา วัฒนามนตรี สำหรับแฟนๆ ละครในบ้านเราก็คงจะนึกถึงภาพการเป็นนางเอกละครแห่งวิกเจ็ดสีที่แจ้งเกิดและโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงการเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่เป็นในย่านอาเซียนบ้านเรานั้น นาทีนี้ต้องบอกเลยว่าเธอกำลังเป็นดวงดาวที่กำลังจรัสแสงและเป็นที่สนใจโดยเฉพาะ แฟนคลับชาวจีน ที่กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าคลั่งไคล้เธอสุดๆ ซึ่งหลายๆ ครั้งเหล่าแฟนคลับแดนมังกรก็ลงทุนตีตั๋วบินลัดฟ้ามาเซอร์ไพร์สสาวมินถึงเมืองไทย แถมล่าสุดสาวมินเองก็ยังได้มีโอกาสบินไปประเทศจีนเป็นครั้งที่สองในฐานะตัวแทนเซเลปประเทศไทย และกลับมาพร้อมความประทับใจจนทีมข่าว Sanook!News ต้องขอเกาะติดประเด็นความฮอตของเธอในประเทศจีนที่ต้องบอกว่ากว่าจะได้เวลาสั้นๆ ของสาว มิน พีชญา มาพูดคุยนั้นไม่ง่ายๆ เลยจริงๆ ย้อนถึงจุดเริ่มต้นที่เริ่มมีแฟนคลับต่างชาติเข้ามาติดตามมิน? "เมื่อสองปีที่แล้วตอนที่ละครปิ่นอนงค์ดัง อุ้ยไม่สิๆ ตอนที่ละครรักในม่านเมฆที่เมืองจีนรู้จักและมีนักข่าวจากช่อง 7 มาสัมภาษณ์มินว่าเรตติ้งละครเป้นอันดังหนึ่งของช่องเขาตอนนั้นและก็ตอกย้ำด้วย กระแสของละครปิ่นอนงค์ เวียร์มิน เราก็เริ่มรู้สึกว่าในอินสตาร์แกรมของตัวเองเริ่มมีภาษาจีนเข้ามา และก็เราเริ่มมีอะไรเหมือนจีนๆ วนเวียนรอบๆ ตัว แฟนคลับจีนบินมาหามีการประมูลจากแฟนคลับจีน อะไรอย่างนี้ แต่ถ้าจริงๆ ก็มีหลากหลายประเทศมี จีน เวียดนาม ไต้หวัน กัมพูชา ลาว เรียกว่า AEC (หัวเราะ) แต่ถ้าเทียบกลุ่มใหญ่ๆ ก็จะเป็นจีนมากกว่าเพราะปริมาณประชากรคนประเทศเขาค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว" จุดเด่นอะไรที่ทำให้มินโกอินเตอร์ในอาเซียน? "ไม่รู้สิ (หัวาเราะ) หรือว่าอาจจะเป็นเพราะความโชคดีที่แบบหน้ามินไปได้หมดเวลามินเป็นพรีเซ็นเตอร์ พรีเซ็นเตอร์ก็จะซื้อไปใช้หลายประเทศ ซึ่งตรงนี้ลูกค้าก็บอกเสมอหน้ามินไปได้หลายประเทศ เหมือนว่า อินโดนีเซียก็ชอบจีนก็ได้ ไทยก็ได้ ลาวก็ได้ ได้หมดแถบๆ เพื่อนๆ บ้านของเราหน้ามินคงจะไปได้ทุกประเทศคนก็เลยรู้สึกว่าเป็นสเปกของหลายๆ ประเทศมั้งคะ" สดๆ ร้อนๆ กับการไปเยือนเมืองจีนครั้งที่สอง? "มินไปในนามของเซเลปเมืองไทยค่ะแล้วก็ทางกงศุลที่โน่นเขารู้ว่ามินจะไปกเพราะมินไปทำวีซ่าจีนที่ไทยและทางกงศุลก็รับเรื่องว่ามินจะไปตอนแรกก็ทำทุกอย่างแบบคนธรรมดาและพอเขารู้ว่าเป็นดารา เขาก็เลยเหมือนเชิญเข้าไปและเหมือนทางกงศุลเขาคงรับทราบมันก็เลยเป็นแบบทางการ บรรยากาศการต้อนรับแฟนๆ แฟนคลับที่นั้นก็น่ารักและอบอุ่นและก็ประทับใจที่เขาต้อนรับมินอย่างดีค่ะ" ระดับความคลั่งไคล้เรียกว่าค่อนข้างหนักมาก? "ใช่ค่ะ เขาจะพุ่งเขาหาเลยเพราะเขามาไกลไง ฉะนั้นความยากความตื่นเต้นเขาจะมากกว่า เช่นเดียวเวลาไปที่บ้านเขาเพราะนานๆ เราไปที อย่างที่ไปครั้งล่าสุดมินไปถึงตอนตีห้าลงไปถึงเห็นแฟนคลับ มารอรับที่สนามบินแบบเขาไม่ได้นอนกันเลยนะเพราะมารอกันตั้งแต่กลางคืนกลัวจะไม่ได้เจอเราเดินเข้าสนามบินบรรยากาศก็มีเสียงโห่ร้องป้ายไฟมันดูยิ่งใหญ่กว่าบ้านเราเพราะแฟนคลับบ้านเราก็จะยืนชื่นชม" เสียงจากแฟนคลับจีนที่มินรับรู้ว่าเขาชื่นชอบเราเพราะอะไร? "เขาชอบรอยยิ้มเราความเป็นกันเองของเรา ในเรื่องของภาษามินก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว มินก็เรียนมหา'ลัยอินเตอร์เราก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารและบวกกับตัวมินเป็นคนค่อนข้างขี้เล่นกับแฟนคลับ เราก็เล่น และรู้สึกว่ามันไม่มีพรมแดนเพราะตอนเรียนเราก็มีเพื่อนจีน แต่ถามว่าเราก็ไม่ได้พูดรู้เรื่องหรอกนะเพราะพูดภาษาอังกฤษ เราก็จะคุ้นชินกับภาษาอังกฤษทุกสำเนียง เราก็เลยไม่รู้สึกว่ามันแตกต่าง แต่คนไทยบางคนจะกลัวเวลาจะแฟนคลับต่างชาติเลยไม่รู้จะคุยอะไร แต่สำหรับมินนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย แต่มินจะชอบเล่นๆ ต่างชาติยิ่งเห็นก็ยิ่งตื่นเต้นประทับใจ อย่างแฟนคลับเวียดนามเราก็พูดคุยถามเขาทีนั้นมีอะไรบ้าง อยากไปบ้างจัง" สุดอึ้งและทึ้งกับความคลั่งไคล้ของแฟนคลับจีน? "เป็นตอนที่ไปกับพี่เวียร์ค่ะและอาจจะเพราะไปกับพี่เวียร์ด้วยมั้งเลยมีแฟนคลับสองบ้านบวกกันมันก็เลยเต็มแน่นสนามบินเลย พอเราไปถึงมันมีเสียงวิ่งตามเราเสียงเท้าเหมือนกองทัพอะไรซะอย่าง มินกับเวียร์เจอชอตนั้นก็อึ้งๆ งงๆ เห้ยๆ อะไรๆ เสียงอะไร (หัวเราะ) อะไรกันเนี่ยแต่เขาก็มีการ์ดเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยแฟนคลับก็วิ่งตามๆ เราก็เข้าใจค่ะว่าเขาตั้งใจอยากมาเจอ" จากใจมินถึงแฟนคลับแฟนคลับต่างชาติ "มินรู้สึกว่าเขาซินเซียนะหลายๆ คนอาจจะมองว่าคนจีนแบบนว่าชอบแบบขากถุย แต่มินรู้สึกว่าแต่ละที่ก้มีเคาท์เจอร์ของตัวเอง ข้อดีของเขาก้มีเยอะแต่ว่าเราอาจจะไม่ชินเราอาจจะเจอและได้ยินอะไรแย่ๆ แต่สำหรับมินๆ รู้สึกว่า บรรพบุรุษมินก็เป็นคนจีน ในเลือดเราก็เป็นคนจีนมีไทยมีจีนเราก็รักทั้งสองชาติเราก็ถือว่าเราให้เกียรติทุกสัญชาติค่ะ" ขอบคุณภาพโดย : JUMEKO