"วีจีไอ"เล็งซื้อกิจการสื่อเพิ่ม เตรียมงบลงทุนปีละ3พันล.คงเป้ารายได้โต13-17%ชี้ธุรกิจฟื้นหลังการเมืองชัด นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดการเติบโตของรายได้ปีนี้ที่ 13-17% ขณะที่กำไรก็น่าจะเติบโตในระดับที่ใกล้เคียงกัน โดยมองว่าเม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอไปในช่วงต้นปีจากผลกระทบปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และฟื้นตัวในลักษณะตัววี (V) หลังการเมืองคลี่คลาย อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทไม่มีการปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณา จากปกติที่จะมีการปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 5% "ปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอในช่วงที่ผ่านมา กระทบกับการใช้งบโฆษณาพอสมควร ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสสำหรับการเจรจาซื้อกิจการบริษัทสื่อโฆษณา ทำให้การเจรจาต่อรองง่ายขึ้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับหลายแห่ง ทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และนอกตลาด เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) สื่อโฆษณานอกบ้านให้ได้มากกว่า 50% ส่วนเทศกาลฟุตบอลโลกในปีนี้ คงทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาคึกคักมากขึ้น แต่ไม่ดีเท่า 4 ปีก่อน จากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอ" เขากล่าวต่อว่า การซื้อกิจการส่วนใหญ่มองสื่อในประเทศไทยเป็นหลัก พร้อมมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ เพียงแต่ต้องหาพันธมิตรในประเทศนั้นๆ ให้ดี ส่วนธุรกิจในจีน บริษัทยังไม่ได้ปิดบริษัท แม้จะขาดทุน เพราะยังมองหาโอกาสลงทุนอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น สื่อโฆษณาบนเรือโดยสารที่วิ่งในทะเลสาบ เป็นต้น สำหรับงบในการซื้อกิจการนั้น บริษัทมีเพียงพอ จากปัจจุบันที่มีเงินสดในมืออยู่ประมาณ 1.7 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนท์) เตรียมไว้อีก ราคาแปลงสิทธิที่หุ้นละ 14 บาท ซึ่งหากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิเต็มจะได้เงินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนนางสาวทิศากร ยังโหมด ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์อาวุโส บริษัท วีจีไอ เปิดเผยว่า บริษัทยังมีนโยบายการซื้อกิจการสื่อโฆษณานอกบ้านอย่างต่อเนื่อง ในสัดส่วนที่บริษัทมีอำนาจในการบริหาร โดยเบื้องต้นได้มีการเตรียมงบลงทุนไว้ปีละ 3 พันล้านบาท ในช่วง 4 ปีข้างหน้า จะมาจากการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนท์ ซึ่งหากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิเต็มจะมีเม็ดเงินเข้ามา 1.2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามการแปลงสิทธิมีระยะเวลา 4 ปี ดังนั้นเม็ดเงินก็จะทยอยเข้ามาเริ่มในปีนี้ โดยคาดว่าปีนี้จะสรุปได้อย่างน้อย 1 ดีล เพื่อทำให้มาร์เก็ตแชร์สื่อนอกบ้านแตะ 50% ของตลาดรวม ทั้งนี้เม็ดเงินการซื้อกิจการ จะไม่รวมกับการลงทุนตามปกติ ซึ่งปีนี้มีแผนใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท แยกเป็น 290 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในโครงการต่อเนื่องงบ 230 ล้านบาทสำหรับดิจิทัลมีเดีย ส่วนที่เหลือจะเป็นการขยายเครือข่ายสื่อบนอาคารสำนักงานให้ได้ 100 อาคาร จากปัจจุบันมีอยู่ 75 อาคาร ด้าน บล.บัวหลวง วิเคราะห์ว่า วีจีไอตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสื่อโฆษณาที่เน้นรูปแบบกลางแจ้ง(ประกอบด้วยสื่อในระบบขนส่ง, สื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรด และสื่อนอกอาคาร) จากขณะนี้ที่ 38% เป็น 50% ในระยะยาว โดยการควบรวมกิจการเป็นวิธีการหนึ่งที่บริษัทจะสามารถช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าที่วางไว้ได้ "มองว่าเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 50% นั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เนื่องจากตลาดสื่อกลางแจ้งนั้นมีผู้เล่นรายย่อยมากมาย ทำให้วีจีไอ ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพื่อที่จะสามารถเข้าซื้อบริษัทเล็กๆ หลายบริษัทเม็ดเงินโฆษณาชะลอตัว" สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นวีจีไอ วานนี้ (10 มิ.ย.) ปิดตลาดที่ระดับ 13 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 4% มีมูลค่าการซื้อขาย 531.48 ล้านบาท Tags : มารุต อรรถไกวัลวที • วีจีไอ • สื่อ • ธุรกิจ • การเมือง