"เสนา ดีเวลลอปเม้นท์" ปรับแผนหันทำธุรกิจเชิงรุก หลังชะลอแผนงานช่วงการเมืองวุ่น เผยสถานการณ์ปัจจุบันทั้งการเมือง-เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น หลังปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองยืดเยื้อหลายเดือน ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับแผนการดำเนินงาน ลดค่าใช้จ่ายและกิจกรรมทางการตลาด เพื่อรับกับแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว รวมถึงบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่ต้องชะลอแผนการเปิดโครงการใหม่ออกไป แต่หลังจากสถานการณ์การเมืองเปลี่ยน บริษัทเสนาฯ จึงทบทวนการเปิดโครงการใหม่อีกครั้ง พร้อมกลับมาทำกิจกรรมการตลาดตามแผนที่วางไว้ นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทจะเริ่มกลับมาทำธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น จากเดิมระมัดระวังในช่วงที่มีปัญหาทางการเมือง โดยได้นำแผนการเปิดใหม่ 6 โครงการที่เลื่อนออกไป มาพิจารณาใหม่คาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ทั้งนี้ตามแผนเดิมในปี 2557 บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 5 พันล้านบาท ได้เปิดไปแล้ว 2 โครงการ มูลค่าพันล้านบาท ส่วนอีก 6 โครงการมูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท ได้ชะลอออกไปก่อน แต่หลังจากการเมืองและเศรษฐกิจเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น บริษัทก็จะกลับมาเปิดโครงการใหม่ตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้บริษัทยังทำกิจกรรมการตลาดต่างๆ ตามแผนที่วางไว้ พร้อมเพิ่มงบลงทุนส่วนซื้อที่ดินในปีนี้อีก 300 ล้านบาท รวมเป็น 1.3 พันล้านบาท แต่จะใช้เงินจริงเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ส่วนแนวโน้มรายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน ปัจจุบันยังคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดขายอยู่ที่ระดับ 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน "หลังการเมืองเปลี่ยนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพแนวโน้มธุรกิจดีขึ้น เห็นได้จากยอดการเข้าชมโครงการใหม่ และการเข้าไปจับจ่ายในคอมมูนิตี้มอลล์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การประกาศมาตรการเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมา เป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หากเศรษฐกิจดี กำลังซื้อก็เพิ่มขึ้น แต่โครงการที่ส่งผลกระทบโดยตรง คือการสร้างรถไฟฟ้า" เธอกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ต้องจับตาดูการตอบรับของภาคธนาคารพาณิชย์ว่า จะมีมุมมองต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างไร ซึ่งภาคธนาคารมีส่วนสำคัญทั้งต่อผู้ซื้อ และผู้ประกอบการ หากธนาคารปล่อยสินเชื่อง่ายขึ้น ก็หนุนการซื้อโครงการ โดยช่วงที่การเมืองวุ่นวายมากๆ พบว่ามียอดปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นถึง 10% จากอัตราปกติอยู่ในระดับเพียง 5% นอกจากนี้จากข้อมูลของเครดิตบูโร พบว่า ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยอดสินเชื่อบ้านและคอนโดมิเนียมที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทปรับลดลงแรงมาก แบบปักหัวลง แสดงให้เห็นว่า การขอกู้ทำได้ยากขึ้น รองลงมาเป็นกลุ่มสินเชื่อในระดับ 1-3 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อในระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะลูกค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีเงินเก็บ ปัญหาเศรษฐกิจ และการเมืองไม่ได้กระทบกับกำลังการซื้อที่อยู่อาศัย "จากข้อมูลข้างต้น ทำให้เห็นว่าราคาบ้าน และคอนโดในระดับสูง ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองน้อย บริษัทจึงมีแผนจะปรับเซ็คเม้นท์ให้มีโครงการที่มีราคาสูงขึ้น หรือมีโครงการราคา 2 ล้านบาทขึ้นไปมากขึ้น" Tags : เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ • เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ • อสังหาฯ