รีวิว HTC One M9+ ความหวังใหม่ในการบุกตลาดพรีเมียมของ HTC

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 พฤษภาคม 2015.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    [​IMG]
    เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา HTC ช็อกแฟนๆ ด้วยการเปิดตัว HTC One M9+ สมาร์ทโฟนเรือธงตัวจริงกว่า HTC One M9 รุ่นปกติ ที่คิดใหม่ทำใหม่ (ไม่นับการออกแบบ) ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์อย่างที่สแกนลายนิ้วมือ การใส่หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น ความละเอียดสูงกว่า และยังเป็นรุ่นเดียวที่ขายในประเทศไทย หลังจากงานเปิดตัว ทาง Blognone ก็ได้เครื่องมาทดสอบอยู่ราวสองสัปดาห์ และนี่คือรีวิวของ HTC One M9+ ครับ

    สเปคคร่าวๆ ของ HTC One M9+ เรียกได้ว่าแปลกใหม่ในรุ่นเรือธงของ HTC ด้วยการใช้ซีพียู MediaTek รหัส MT6795 แทน Snapdragon เป็นครั้งแรก และปรับหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 5.5" พร้อมความละเอียดระดับ 2K ส่วนอื่นๆ กล้องหลังความละเอียดสูง 20 เมกะพิกเซลที่ยังใช้งานแบบ Duo Camera ได้ ส่วนสเปคเต็มๆ อ่านได้จากข่าวเปิดตัวครับ

    ฮาร์ดแวร์

    ตัวเครื่องรุ่นที่ได้มารีวิวจะเป็นรุ่นความจุ 32GB แรม 3GB สีเงิน-ทอง โดยสีทองของ M9+ จะต่างกับ M8 ตรงที่สว่างกว่ามาก

    หน้าจอของ HTC One M9+ ความละเอียด 2K จัดว่าคมชัดไม่แพ้ใครในตลาด สีหน้าจอติดโทนเย็นเล็กน้อย ความสว่างของหน้าจอน้อยกว่ารุ่นเก่า แต่ใช้งานกลางแจ้งได้ไม่มีปัญหา

    [​IMG]

    ตำแหน่งการวางของ M9+ เรียกได้ว่าเหมือนกับ M8/M9 ทุกประการ ยกเว้นปุ่มโฮมที่ทำหน้าที่สแกนลายนิ้วมือที่เพิ่มเข้ามาด้านล่าง ใต้โลโก้ HTC

    [​IMG]

    ด้านบนเหมือนกับรุ่นเดิมทุกประการ ยกเว้นแต่ตัวกล้องหน้าเปลี่ยนมาใช้ UltraPixel ที่โยกมาจากด้านหลังแล้ว

    [​IMG]

    สำหรับสีตัวเครื่อง รอบนี้ HTC มาแหวกแนวด้วยการทำสีแบบทูโทนในรุ่นสีทอง กลายเป็น เงิน-ทอง โดยขอบตัวเครื่องจะเป็นสีทองเงา ตัดกับด้านหน้าที่เป็นทองอ่อน และด้านหลังที่เป็นสีเงินขัดเส้น

    ปุ่มตัวเครื่องหลักๆ จะอยู่ด้านขวาทั้งหมด รวมถึงปุ่มเปิดเครื่องถูกย้ายมาด้านข้างด้วย เรียงจากซ้ายไปขวาจะเป็นปุ่มเปิดเครื่อง ปุ่มเพิ่มลดเสียง และถาดใส่ micro SD

    [​IMG]

    ด้านซ้ายจะมีถาดสำหรับใส่ nano SIM เท่านั้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    แม้ว่าจะไม่มีปุ่มใดๆ อยู่ด้านบนแล้ว แต่ M9+ ก็ยังใช้พลาสติกสีดำเงาครอบด้านบนของตัวเครื่องดังเดิม

    [​IMG]

    ด้านล่างตัวเครื่องสำหรับวางพอร์ต micro USB และพอร์ตหูฟัง 3.5 มม.

    [​IMG]

    ด้านหลังของ M9+ จะต่างจาก M8 อย่างมาก จากเดิมที่ใช้พื้นผิวโลหะขัดทราย กลายเป็นโลหะขัดเงาที่มีลายเส้นแทน ดูเผินๆ จะรู้สึกเจิดจ้ากว่าเดิมเอาเรื่อง

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตัวกล้องหลักด้านหลังขนาด 20 เมกะพิกเซล ใช้กระจกครอบขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

    [​IMG]

    ประสบการณ์ใช้งาน

    แม้ว่าตัวเครื่อง M9+ จะค่อนข้างใหญ่ด้วยขนาดหน้าจอ 5.5" แต่การใช้งานจริงไม่ได้ถือยากนัก สำหรับคนที่ใช้งานสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 5" อยู่แล้ว จุดที่รู้สึกต่างออกไปคือ ขอบตัวเครื่องคมมาก และตัวเครื่องที่เป็นโลหะยังคงง่ายต่อการเป็นรอยขีดข่วน

    ด้วยความที่ตัวเครื่องเป็นโลหะยังเป็นจุดอ่อนด้านการนำความร้อนเหมือนเดิมครับ

    [​IMG]

    ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่างการปลดล็อกด้วยการสแกนลายนิ้วมือทำงานได้รวดเร็ว และใช้ได้หลายทิศทางอย่างที่โฆษณาไว้ เพียงแต่ต้องทำตามคำแนะนำช่วงแรกอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การสแกนลายนิ้วมือครั้งแรกไปในทางเดียวกัน สแกนให้ครอบคลุมทั้งนิ้ว ซึ่งไม่ยากจนเกินไปครับ

    [​IMG] [​IMG]

    สำหรับการใช้งานสแกนลายนิ้วมือ จะใช้ปลดล็อกได้ทันทีแม้ว่าหน้าจอจะดับอยู่ โดยแน่นอนว่าต้องตั้งค่าล็อกหน้าจอด้วยรหัสไว้ด้วย (จะเป็นตัวเลข หรือวาดนิ้วก็ว่าไป) โดยจะต้องใส่รหัสยืนยันใหม่ทุกครั้งที่รีสตาร์ทเครื่อง ทุก 48 ชั่วโมง และทุกครั้งที่สแกนลายนิ้วมือผิดพลาดติดต่อกัน 4 ครั้ง

    นอกเหนือจากการปลดล็อกแล้ว สามารถใช้นิ้วใดก็ได้ในการกดเพื่อกลับไปยังหน้าโฮม ซึ่งสะดวกสำหรับคนที่ชินการมีปุ่มโฮมในเครื่องมาก่อน (แต่จะกลายเป็นว่ามีปุ่มโฮมสองปุ่มอยู่ใกล้ๆ กันแทน)

    สำหรับฟีเจอร์ลำโพงคู่ BoomSound ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับ Dolby Digital Surround นอกจากจะเปิดปิดได้แล้ว ยังเพิ่มโหมดใหม่อย่าง Theather Mode เข้ามาร่วมกับของเดิมอย่าง Music Mode ด้วย

    ความต่างของสองโหมดนี้อยู่ความกว้างของสเตจใน Theater Mode จะมากกว่า ส่วน Music Mode จะเพิ่มเบส และเสียงคนร้องให้ชัดเจนแทน

    [​IMG] [​IMG]

    ส่วนคุณภาพของลำโพง BoomSound จัดว่าทัดเทียมกับของเดิมครับ

    การใช้งานต่อหนึ่งการชาร์จของ M9+ ไม่อึดอย่างที่คาดไว้ เปิดใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งวัน มีแจ้งเตือนขึ้นเป็นระยะ สามารถอยู่ได้เกินวันสบายๆ แต่พอใช้งานแอพอย่างเกม หรือ YouTube แล้วแบตเตอรี่จะลดไวมาก

    ซอฟต์แวร์

    M9+ ที่รีวิว รัน Android 5.0.2 ครอบทับด้วย HTC Sense 7 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง HTC Theme และ Sense Home มาค่อยๆ ดูกันว่าเป็นอย่างไรกันบ้างครับ

    ตัวหน้าหลักของ Sense 7 จะมาแบบเรียบๆ ด้านซ้ายสุดเป็น BlinkFeed สำหรับแสดงอัพเดต และข่าวสารต่างๆ ส่วนหน้ากลางจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sense Home เข้ามา

    [​IMG] [​IMG]

    Sense Home คือวิดเจ็ตสำหรับรวมแอพอิงตามการใช้งาน โดยสามารถเปลี่ยนอัตโนมัติอิงตามสถานที่ โดยครั้งแรกที่เปิดเครื่อง ก็จะแนะนำ และถามข้อมูลก่อนใช้งาน โดยมีสามตัวเลือกหลักๆ คือ ใช้งานที่บ้าน ใช้ทำงาน และสำหรับออกนอกสถานที่

    [​IMG] [​IMG]

    ชุดแอพเบื้องต้นที่ Sense Home เลือกมาให้มีตามนี้ครับ (สามารถปิดหน้า download และ suggest ได้)

    [​IMG]

    เน้นความบันเทิง สำหรับใช้งานในบ้าน

    [​IMG]

    เน้น productivity สำหรับใช้ทำงาน

    [​IMG]

    เน้นบริการอิงสถานที่ สำหรับใช้งานนอกสถานที่

    ตัว Sense Home สามารถเลือกได้ว่าจะให้ปรับเองโดยอิงจากการเชื่อมเข้ากับสถานที่ หรือ Wi-Fi หรือจะปรับเองด้วยมือก็ทำได้เช่นกัน

    [​IMG] [​IMG]

    หลังจากลองใช้งานมาพักหนึ่งพบว่า Sense Home เป็นกิมมิกที่น่าสนใจ แต่ไม่สะดวกเท่ากับการวางแอพใช้บ่อยไว้หน้าแรก ซึ่งสามารถเลือกได้ตามชอบมากกว่าครับ

    อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Sense Theme หน้ารวมชุดธีมสำหรับปรับแต่งเครื่อง ซึ่งมีละเอียดตั้งแต่เปลี่ยนยกชุด หรือจะเปลี่ยนเฉพาะพื้นหลัง ไอคอน ริงโทน ฟอนต์ก็ยังได้

    วิธีการใช้งานนั้นง่ายตามประสา เลือกธีมที่ต้องการแล้วสามารถดาวน์โหลดได้ทันที สำหรับการลงแบบทั้งธีมจะเลือกให้ไม่เปลี่ยนภาพพื้นหลัง และเสียงริงโทนได้

    [​IMG] [​IMG]

    ติดตั้ง!

    [​IMG] [​IMG]

    สำหรับคนที่อยากเลือกทำธีมเองโดยใช้ ไอคอน ฟอนต์ และเสียงริงโทนจาก Sense Theme ก็สามารถทำได้ด้วยการกดปุ่ม + ที่มุมขวาบน โดยตัวแอพจะให้เราเลือกภาพพื้นหลัง และพรีวิวชุดไอคอน และฟอนต์ให้ดูเสร็จสรรพ

    [​IMG] [​IMG]

    สำหรับ Sense Theme ทำออกมาได้ใช้ง่าย และการเปลี่ยนเฉพาะส่วนก็ทำได้ดี เสียแค่ยังมีตัวเลือกให้น้อยไปหน่อย

    การใช้งาน Sense 7 โดยรวมลื่นไหล และอินเทอร์เฟซที่ทำออกมาได้สะอาดดี ของที่ไม่ค่อยใช้อย่าง BlinkFeed ก็ยังไม่ได้ใช้กันต่อไป ส่วนของเดิมที่ดีแล้วอย่าง Motion Launch ในรุ่นนี้ก็เพิ่มหน้าอธิบายการใช้งานให้ละเอียดขึ้นกว่าเดิมที่เป็นข้อความยาวๆ อ่านยาก

    [​IMG]

    ปิดท้ายกันที่ผลการทดสอบด้วย AnTuTu หลังอัพเดตแล้วเร็วขึ้นราว 10% กระโดดจากที่ 47,000 คะแนนไปเป็น 51,625 คะแนน แซงหน้า Snapdragon 810 อย่างเป็นทางการ

    [​IMG] [​IMG]

    กล้อง

    กล้องใน M9+ น่าจะเป็นส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดจากรุ่นเดิม โดยฝั่งอินเทอร์เฟซปรับไปจาก M8 เล็กน้อยตรงที่มีโหมดความละเอียดสูง และโหมดกล้องคู่ (Duo Camera) แยกกันชัดเจน (ของ M8 จะรวมกัน)

    [​IMG]

    [​IMG]

    การตั้งค่าในแอพกล้องของ M9+ ยังใช้แบบเดิมคือกดที่ปุ่มเมนูเพื่อขยายเมนู สามารถปรับได้ทุกอย่างในหน้าแรกตั้งแต่ ความละเอียดภาพนิ่ง, ความละเอียดวิดีโอ, ISO, สมดุลแสง และชดเชยแสง

    [​IMG]

    ในหน้ารวมภาพของ M9+ จะเพิ่มไอคอนใหม่เข้ามาคือ Duo Camera สำหรับใช้เข้าถึงเมนูปรับแต่งภาพอย่างไว ข้ามการกดเมนูแบบเดิมไป

    [​IMG] [​IMG]

    ฟีเจอร์ถ่ายภาพรัว พร้อมเลือกภาพดีที่สุดก็ยังมีอยู่ใน M9 ใช้งานด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้ครับ

    [​IMG]

    เพื่อเปรียบเทียบให้ชัดว่า M9+ ที่เปลี่ยนไปใช้กล้องความละเอียดสูงขึ้นแล้วแตกต่างจากรุ่นเดิมแค่ไหน จึงมีภาพเปรียบเทียบกับ M8 ที่ถ่ายพร้อมกันมาให้ดูในหลายๆ สภาพแสงครับ (ดูภาพขนาดเต็มของ M9+ และ M8)

    [​IMG]
    [​IMG]

    บน M9+, ล่าง M8 ภาพถ่ายในที่แสงน้อยจะเห็นว่า M9+ มีปัญหากับการควบคุมแสงแฟลร์มากเป็นพิเศษ แต่ในทางกลับกัน ความละเอียดที่มากกว่า และเซนเซอร์ที่ดีขึ้นก็ทำให้นอยส์น้อยกว่าอย่างชัดเจนเช่นกัน (และไม่คม อันนี้ไม่รู้ทำไม)

    [​IMG]
    [​IMG]

    บน M9+, ล่าง M8 ขยับมาเป็นถ่ายแบบในร่ม ทั้งสองรุ่นไปกันคนละทาง ฝั่ง M9+ จะออกสีซีดนิดหน่อย ส่วน M8 นั้นสีเข้มว่าต้นแบบ แปลกคือ M8 ภาพคมชัดกว่าครับ

    [​IMG]
    [​IMG]

    บน M9+, ล่าง M8 สำหรับในสภาพแสงปกติ ทั้งสองรุ่นไม่แตกต่างกันมาก ฝั่ง M9+ จะสว่างกว่าตัวแบบนิดหน่อยครับ

    ภาพที่เหลือด้านล่างถ่ายมาหลังจากอัพเดตเมื่อสัปดาห์ก่อน ความเปลี่ยนแปลงของกล้องที่สังเกตได้คือ คมชัดขึ้นแล้ว! โฟกัสไวขึ้นเล็กน้อย และคุมแสงได้ดีขึ้นครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปัญหาที่เจอของ M9+ จะเป็นเวลาที่มีแหล่งกำเนิดแสงหลายที่ จะมีทั้งแฟลร์ และสมดุลแสงเพี้ยนให้เห็นบ่อยครั้งครับ สำหรับการถ่ายด้วยโหมดความละเอียดสูง กับกล้องคู่ โหมดกล้องคู่จะสว่างกว่าต้นแบบไปเล็กน้อย และคมชัดน้อยกว่าครับ

    สรุป

    HTC One M9+ เป็นความพยายามเปลี่ยนตัวเองของ HTC ที่น่าสนใจ การใส่ที่สแกนลายนิ้วมือเข้ามา แม้จะไม่สวยในสายตาบางคน แต่เป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริง รวดเร็ว แม่นยำ

    คุณภาพกล้องก่อนอัพเดต แย่มาก ... หลังอัพเดตดีขึ้น แต่เทียบกับคู่แข่งแล้วก็ยังตามหลังอยู่พอสมควร กล้องคู่ที่เคยเป็นจุดเด่น ตอนนี้มีก็เหมือนไม่มีไปเสียแล้ว

    ราคาเปิดที่ 24,990 บาท แพงไปหน่อยครับ

    HTC, HTC One, Review
     

แบ่งปันหน้านี้