นักแสดงนักบู๊ 'จา พนม' ไม่ขอตอบเสี่ยเจียงฟ้อง บอก ผู้ใหญ่จัดการ เผย มีหนัง ตปท. อีก 2 เรื่อง "จา พนม" หรือ ทัชชกร ยีรัมย์ นักแสดงนักบู๊ชาวไทย ได้ขึ้นรับรางวัลเกียรติยศ มวยไทย ไลฟ์ อวอร์ด "Muay Thai Live Award 2015" ในฐานะ ผู้เผยแพร่มวยไทยให้เป็นที่รู้จักกันในระดับสากล ได้เผยถึงความรู้สึก ว่า "ดีใจและภาคภูมิใจเป็นอย่างมากครับ เป็นรางวัลที่ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป รวมถึง อยากมอบรางวัลนี้ให้กับคุณพ่อ เพราะท่านเป็นคนสอนมวยไทยให้ผมเป็นคนแรก" กระแสภาพยนตร์ ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ "ที่ต่างประเทศทุกคนให้การต้อนรับอย่างดี และให้เกียรติ เปรียบเสมือนเขาต้อนรับมวยไทย ตอนนี้ไปไหนมาไหน มีชาวต่างชาติเข้ามาทักและสวัสดี รวมถึง ทีมงานจากภาพยนตร์เรื่องนี้ อยากใช้สไตล์การบู๊แบบมวยไทย เช่น วิน ดีเซล สนใจที่จะเรียนมวยไทย อยากมีท่าใหม่ ๆ ที่ผมใช้ในภาพยนตร์ ซึ่งเขาอยากทำตาม ส่วนในประเทศไทยก็ทราบว่ากระแสดีเช่นกัน คนมาดูหนังกันเยอะมาก" ก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์ Fast and Furious 7 ถูกศาลสั่งให้ระงับฉายชั่วคราวนั้น ทราบบ้างไหม "พอทราบเรื่อง ถามว่า ตกใจมั้ย ตกใจนะครับ ในฐานะที่เป็นคนไทย ผมอยากนำเสนอฝีมือของคนไทยครับ" ได้เข้าไปพูดคุยกับทางสหมงคลฟิล์มหรือยัง"ผมไม่ขอพูดถึง เพราะในวันนี้มารับรางวัล จึงขอพูดแต่สิ่งดี ๆ ไม่อยากพูดอะไรที่พาดพิงใคร" จะเข้าไปคุยกับเสี่ยเจียง ไหม"คงไม่คุย คงให้ทนายเป็นคนคุย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผมไปเปิดตลาดฮอลลีวู้ดแล้ว เรื่องต่อไปก็อยากให้สนับสนุน อยากให้ร่วมมือร่วมใจกัน" ตั้งใจจะเข้าไปเคลียร์ปัญหากับทางสหมงคลฟิล์มเมื่อไหร่ "ตอนนี้ทุกฝ่ายก็ทำหน้าที่กันอยู่ ส่วนผมก็ทำหน้าที่ทำภาพยนตร์ นำมวยไทยไปเผยแพร่ทั่วโลก" ทำไมถึงไม่อยากเข้าไปเคลียร์ปัญหา "มันมีระบบขั้นตอนของมัน ผมก็ทำหน้าที่ของผมและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย อยากให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวในทางบวก" กลัวเกิดกรณีเดียวกันนี้กับหนัง Skin Trade และ SPL2 ไหม "ผมขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด ตรงนี้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่และทางด้านฝ่ายกฎหมาย ผมขอโฟกัสการทำหน้าที่ของผม และกำลังดำเนินการอยู่ วันที่ 23 เม.ย.นี้ จะมีกำหนดฉายเรื่อง Skin Trade ซึ่งยังไม่มีปัญหาอะไร ขอโฟกัสที่การทำหน้าที่ของตัวเองครับ"