ยังคงเป็นประเด็นดราม่าที่ใครหลายคนเฝ้าจับตามองกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีอดีตต้นสังกัดบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด นำโดย "นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" หรือ "เสี่ยเจียง" เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนักแสดงหนุ่มชื่อดัง "จา พนม ยีรัมย์" ในข้อหาผิดสัญญาบริษัทรับเล่นหนังต่างประเทศโดยไม่รับอนุญาต พร้อมนำเงินจำนวน 26ล้านบาท ไปสร้างภาพยนตร์ "ไอ้หนุ่มกังนัม" แต่สุดท้ายกลับเงียบหาย ซึ่งจนถึงตอนนี้ทางด้านของนักแสดงหนุ่มก็ยังไม่ทีท่าว่าจะเข้าไปพูดคุยเพื่อหาทางออก!! ล่าสุดบรรดาสื่อได้มีโอกาสเจอกับ จา พนม อีกครั้งขณะเดินทางมารับรางวัล "MUAY THAI LIVE AWARD2015" ณ โรงละคร เดอะสเตจ ณ เอเชียทีค ก็เลยไม่พลาดต้องขอเข้าไปสอบถามความคืบหน้าสักหน่อยว่า ตอนนี้เจ้าตัวได้วางแผนยุติคดีความกับอดีตต้นสังกัดเพื่อจบประเด็นดราม่าหนี้บุญคุณไว้แล้วหรือยัง... วันนี้เดินทางมารับรางวัลรู้สึกยังไงบ้าง ? "สำหรับรางวัลนี้นะครับ ก็เป็นรางวัลที่ทำให้ผมมีกำลังใจในการที่จะเดินหน้าต่อไป อีกทั้งยังเป็นรางวัลที่สื่อถึงความเป็นมวยไทยให้ก้าวไกลไปสู่ตลาดโลกด้วย" เห็นว่าตอนที่เราขึ้นไปรับรางวัลก็มีการกล่าวขอบคุณคุณพ่อ ? "ผมขอมอบรางวัลนี้ให้แด่คุณพ่อผมครับ เพราะท่านคือคนที่สอนมวยไทยให้ผมมาตั้งแต่เด็ก อีกอย่างท่านเองก็เป็นคนปลูกฝังให้ผมในเรื่องของการไหว้ การให้ความเคารพ และการออกหมดแต่ล่ะครั้งมันจะต้องมีเป้าหมายรวมไปถึงความตั้งใจ" สำหรับฟีดแบคภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious 7 พี่จาพอจะทราบไหมว่าเป็นยังไงบ้าง ? "ตอนที่ผมไปงานเปิดตัวที่นู่นความรู้สึกแรกเลยคือขนลุกมาก เนื่องจากว่าฝรั่งเขาให้การต้อนรับเราดีจริงๆ ยิ่งตอนที่เดินพรมแดงเขาก็จะตะโกนชื่อเราตลอดเลยว่า "โทนี่ จา, โทนี่ จา" เท่านั้นไม่พอเขาก็ยังมีแบบว่าเอาโปสเตอร์ภาพยนตร์เก่าๆ ที่เราเคยแสดงขึ้นมาชู คือวินาทีนั้นเรารู้สึกเลยว่าดีใจมาก แล้วสิ่งที่ผมพอจะทำได้ก็คือเดินไปบอกกับพวกเขาว่า "ผมเป็นคนไทย" จากนั้นก็สวัสดีครับ (ยิ้ม)" ทางด้านกระแสข่าวในไทยเราพอจะทราบด้วยไหม ? "ทราบครับ เพราะได้ยินว่าคนไทยเข้าไปดูหนังกันเยอะมาก ดีใจมากครับ ภูมิใจมากจริงๆ" แล้วกับกระแสก่อนเข้าฉายล่ะเราทราบไหม ? "ทราบเหมือนกันครับ แต่ถามว่าตกใจไหม คือผมต้องบอกก่อนว่าตัวผมเองเป็นคนไทย ผมก็อยากที่จะนำเสนอฝีมือของคนไทยให้ชาวต่างชาติได้ดู" เราได้มีโอกาสคุยกับทางสหมงคลฯ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างหรือยัง ? "วันนี้ผมมาแสดงความยินดีแล้วก็อยากพูดในสิ่งที่ดีๆ ครับ ไม่อยากพูดอะไรที่มันพาดพิงอีก ขอให้ทุกคนคิดบวกเพื่อประเทศชาติดีกว่า" พอจะบอกได้ไหมทำไมเราไม่อยากพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ ? "ผมไม่ขอพูดดีกว่าครับ" คิดไว้หรือยังว่าเมื่อไหร่เราถึงจะเข้าไปเคลียร์ให้ทุกอย่างมันจบ ? "ตอนนี้ทุกฝ่ายก็กำลังทำหน้าที่อยู่ครับ แต่ในส่วนตัวผมเอง ผมก็ทำหน้าที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์เพื่อนำเสนอมวยไทยออกไปทั่วโลกครับ" คิดไหมว่าปัญหาที่มันค้างคาอยู่ตอนนี้ จะส่งผลกระทบต่อหนังเรื่องต่อๆ ของเราในอนาคต ? "ผมขอทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่าครับ" เหมือนแฟนๆ ที่เขารอดูหนังของเราเขาก็อาจจะอยากรู้สึกสบายใจว่าถ้าหากมีหนังของเรามา จะได้ไม่ต้องลุ้นแบบครั้งนี้อีก ? "ตรงนี้ก็เป็นในส่วนของผู้หลักผู้ใหญ่เขาครับที่จะช่วยจัดการ รวมไปถึงฝ่ายกฎหมายก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องตรงนี้มันเป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่เขาจะจัดการกันอยู่แล้ว และอย่างที่ผมบอก ตัวผมเองก็มีหน้าที่แค่โฟกัสเรื่องงานของผมต่อไปเท่านั้นเอง" แสดงว่าก็ได้มีการดำเนินการไว้บ้างแล้ว ? "ก็ดำเนินการครับ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็กำลังดำเนินการอยู่ ณ ตอนนี้" แล้วกับข้อเสอนที่เขายื่นมาให้เราเข้าไปคุยเรื่องสัญญาเราคิดว่าจะเข้าไปไหม ? "ไม่ครับ" เพราะอะไรเราถึงไม่อยากที่จะเข้าไป ? "อย่างที่บอกตอนนี้มันเป็นในส่วนของระบบขั้นตอนครับ ซึ่งหน้าที่ของผมมีแค่การโฟกัสเรื่องงานอย่างเดียว" แต่เหมือนเสี่ยเจียงเขาเองก็รอให้เราเขาไปไกล่เกลี่ย ? "อันนี้ไม่ขอตอบก็แล้วกันนะครับ" สุดท้ายพี่จาอยากให้เรื่องนี้จบยังไง ? "สิ่งที่สำคัญที่สุดนะครับไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ก็คือผมสร้างมวยไทยให้ไปเปิดตลาดในวงการฮอลลีวูด ซึ่งหนังเรื่องต่อๆ ไปของผม ผมก็ยังอยากให้ทุกคนสนับสนุนและมองเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแง่บวก เพราะที่ผ่านมาเวลามีชาวต่างชาติถามผมว่าประเทศไทยเป็นแบบไหน ตัวผมเองก็จะบอกเขาอยู่เสมอว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ และที่สำคัญก็มีหนังต่างประเทศมาถ่ายทำที่ประเทศซึ่งเป็นบ้านเกิดผมบ่อยๆ คือผมพูดถึงประเทศไทยในทางที่ดีๆ เสมอ ไม่เคยเลยที่จะพูดให้ประเทศไทยดูแย่ในสายตาเขา ดังนั้นก็ขอวิงวอนสื่อนะครับให้ช่วยกระจายข่าวและสร้างข่าวในด้านบวกครับ"