"เอสเอ็มอีแบงก์" ตั้งวงเงิน 1,000 ล้านบาท ออกสินเชื่อช่วยลูกค้าเดิมที่เครดิตดี ให้กู้ในวงเงินเดิมที่เคยได้รับ โดยใช้หลักประกันเดิม เอสเอ็มอีแบงก์ จัดสินเชื่อพิเศษ "Special SMES" สำหรับลูกค้าชั้นดี ช่วยลูกค้าเดิม เสริมสภาพคล่อง ลดแรงกระทบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สร้างโอกาสดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง คิดดอกเบี้ยพิเศษ MLR ต่อปีตลอดอายุโครงการ เพียงใช้หลักทรัพย์เดิมค้ำประกัน เป็นทุนหมุนเวียน หรือลงทุนขยาย ปรับปรุงกิจการพร้อมใช้ทันที หมดเขตยื่นกู้วันที่ 31 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ นางสาวปาริฉัตร เหล่าธีระศิริวงศ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ Special SMES เพื่อช่วยลูกค้าธนาคาร สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง หรืออาจจะต้องการใช้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารได้เตรียมวงเงินสำหรับสินเชื่อดังกล่าว 1,000 ล้านบาท สินเชื่อ Special SMES เป็นสินเชื่อที่ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าชั้นดีของธนาคาร โดยคิดดอกเบี้ยพิเศษ MLR ต่อปีตลอดอายุโครงการ และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถใช้หลักประกันเดิมที่เป็นที่ดิน หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเดิมที่มีอยู่แล้วกับธนาคารมาใช้เป็นหลักประกัน โดยกู้ได้ไม่เกินจากวงเงินสินเชื่อเดิม และมีระยะเวลากู้ สูงสุดไม่เกิน 5 ปี ทั้งนี้ลูกค้าที่อยู่ในข่ายใช้บริการสินเชื่อโครงการนี้จะต้องผ่อนชำระเงินต้นกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และเป็นลูกค้าที่ไม่เคยขอผ่อนผัน หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้กับธนาคาร ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ทิศทางสินเชื่อเอสเอ็มอีช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก หากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายลง และเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอาจมีอัตราการเติบโต ณ สิ้นปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 7.5% ขณะในไตรมาส 2 สินเชื่อเอสเอ็มอีอาจเติบโตไม่น้อยกว่า 7.0% จากสิ้นปีก่อน หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หากมาตรการทางเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมา ผนวกกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถประสบผลในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเรียกคืนความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคแล้ว ปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยหนุนการขยายตัวของสินเชื่อในกลุ่มผู้ประกอบการบางกลุ่ม อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร กลุ่มผู้ประกอบการที่ให้บริการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร กลุ่มผู้ประกอบการขายปลีกและขายส่งในบางพื้นที่ และกลุ่มผู้ประกอบการกิจการก่อสร้าง และยังมีกลุ่มผู้ประกอบการที่อาจเติบโตได้ตามการส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว และกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตเนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากวัฏจักรธุรกิจมากนักด้วย ทั้งนี้จากข้อมูลสัดส่วนของสินเชื่อตามกลุ่มลูกค้า ณ สิ้นปี 2553 ถึงไตรมาสแรกของปีนี้จะเห็นว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีสัดส่วนของสินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ (Corporate Loan) ลดลง ซึ่งถูกทดแทนด้วยสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอี แต่ในช่วงสิ้นไตรมาสแรกสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอี มีการเติบโตชะลอลงโดยอยู่ที่ 11.2% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จาก 14.1% ณ สิ้นไตรมาส 4/2556 ซึ่งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอลงต่อเนื่อง ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อในภาคธุรกิจลดลง และยังส่งผลให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเริ่มเผชิญกับภาวะการขาดสภาพคล่อง และเริ่มผิดชำระหนี้กับธนาคารพาณิชย์ในช่วงที่ผ่านมานั้น คาดในระหว่างที่รอพัฒนาการเชิงบวกจากอานิสงส์ของมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภาครัฐ ธนาคารพาณิชย์คงเน้นการเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากกว่าที่จะแข่งขันกันด้านราคาเพื่อแย่งชิงลูกค้า Tags : เอสเอ็มอีแบงก์ • สินเชื่อ • เงินกู้