เอดีบีเผยการเมืองเปลี่ยนส่งผลให้ตลาดพันธบัตรไทยไตรมาสแรกปีนี้เทียบไตรมาสสุดท้ายปีก่อนขยายตัวไม่มากที่ 1.2% นายอีวาน เจ อาซิส หัวหน้าสำนักการบูรณาการเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยรายงานการติดตามภาวะตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asia Bond Monitor) ของเอดีบี ระบุว่าตลาดพันธบัตรเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกกลับมาขยายตัวอีกครั้ง ถึงแม้ตลาดพันธบัตรของไทยมีแนวโน้มไม่ได้ขยายตัวมากตามภาวะตลาดอื่นในภูมิภาค เนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา และนักลงทุนยังต้องเฝ้าระวังอยู่อีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้ตลาดพันธบัตรของไทยขยายตัว 1.2% ในไตรมาสแรกของปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2556 และเพิ่มขึ้น 5.7% ในไตรมาสแรกปีนี้หากเทียบไตรมาสแรกปีที่แล้ว โดยมียอดพันธบัตรสกุลเงินบาทคงค้าง 2.81 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากหุ้นกู้ภาคเอกชนขยายตัว 3.1% เทียบรายไตรมาส และขยายตัว 12.6% หากเทียบไตรมาสแรกปีนี้กับไตรมาสแรกปีก่อน โดยมูลค่าหุ้นกู้ภาคเอกชนขณะนี้มีมูลค่า 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์ และช่วงที่ผ่านมา มีการออกหุ้นกู้โดยธุรกิจค้าปลีกและบริษัทสื่อสาร 5 แห่ง ได้แก่ ซีพีออลล์, ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, ธนาคารเกียรตินาคิน, ทรู คอรเปอร์เรชั่น และโตโยต้า ลีสซิ่ง ประเทศไทย ขณะเดียวกัน พันธบัตรรัฐบาลของไทยไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัว 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส4ปีก่อน และขยายตัว 3.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้ว เนื่องมาจากมีการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลและตั๋วเงินคงคลัง มูลค่า 2.17 แสนล้านดอลลาร์ เอดีบีชี้ว่า ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่แถบเอเชียตะวันออก ได้แก่ จีน, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทยและเวียดนามนั้น พันธบัตรของไทยยังไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนักขณะนี้ ผลตอบแทนจึงอาจสูงขึ้นอีก ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนของพันธบัตรในฟิลิปปินส์สูงขึ้นในเดือนม.ค.จนถึงเม.ย. ในภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นมาก ทั้งนี้ตลาดพันธบัตรแถบเอเชียยังคงเติบโตต่อไป โดยมียอดพันธบัตรคงค้างมูลค่า 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ใน 9 ประเทศเศรษฐกิจ คำนวณถึงสิ้นเดือนมี.ค.ปีนี้ โดยไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวมากขึ้น 2.1% เทียบไตรมาสสุดท้ายปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9.5% หากเทียบไตรมาสแรกปีที่แล้ว โดยเวียดนามเป็นตลาดพันธบัตรที่เติบโตรวดเร็วที่สุดเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ขณะที่ตลาดในอินโดนีเซียเติบโตเร็วสุดเมื่อเทียบไตรมาสแรกปีนี้กับไตรมาสแรกปีก่อน เอดีบีเพิ่มเติมว่าแม้ภาวะตลาดพันธบัตรเอเชียจะดีขึ้นช่วงที่ผ่านมาตามภาวะเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น แต่ตลาดอาจได้รับผลกระทบจากการลดใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน (คิวอี) ของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง การที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และการดำเนินการของธนาคารกลางสหภาพยุโรป ในการรับมือกับแนวโน้มภาวะเงินฝืด เอเชียจะต้องดำเนินการด้านกฎระเบียบและดูแลระบบการเงินให้ดีกว่านี้ ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะบรรเทาความเสี่ยงเหล่านี้ได้ รายงานของเอดีบีฉบับนี้ ยังให้ข้อมูลว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกจะยังเห็นพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของตลาดพันธบัตร โดยจะเห็นได้จากการตัดสินใจของจีนเมื่อเร็วๆ นี้ ในการออกขายพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 15 พันล้านหยวน ในฮ่องกง ซึ่งเป็นความพยายามส่วนหนึ่งในการทำให้หยวนกลายเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ นอกจากนี้เทศบาลจีนได้รับอนุญาตให้ออกขายพันธบัตร จะยิ่งเป็นการเพิ่มตราสารทางการเงินแก่นักลงทุนมากขึ้น Tags : เอดีบี • การเมือง • พันธบัตร