'หมิว ลลิตา' ได้เล่นบทบาทนางร้ายจากซีรี่ส์ เรื่องความลับของเรา 3 คน แถมยังพูดถึงลูกชายด้วย นางเอกที่มีผลงานมานับไม่ถ้วน "หมิว ลลิตา ปัญโญภาส" ได้อัปเดตผลงานล่าสุดเรื่อง ความลับของเรา 3 คน ซึ่งตนได้รับเป็นนางร้ายและยังพูดถึงลูกชาย ในงาน "Simply clinic 1st anniversary celebration" ว่า "ก็ดี เพราะว่าเคยเล่นร้ายมาแล้ว ครั้งนี้มันเป็นร้ายที่คนดูไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ คิดว่าเราร้ายแค่เรามีชู้ และสุดท้ายตอนที่ 5 มาเฉลยว่า โหร้ายมาก แล้วน้องนิว "ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต" ได้รับบทหน้าสงสารมาก และช่วงนั้นเป็นช่วงที่อึดอัดบอกใครก็ไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่ให้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่มันทำให้ผลงานที่ออกมาคนดูลุ้นแล้วก็อยากดูละคร ทำให้คนรู้สึกอินมากเลย ทุกคนสงสารนิว หมิว กับ "วิลลี่ แมคอินทอช" ตอนที่ถ่ายทำสนุกสนาน วิลลี่ เขาจะคอย มีมุขตลกแบบนี้ตลอด แต่พอเข้าฉาก ก็ต้องตั้งสมาธิแล้วก็เล่น หมิวยังคุยกับวิลลี่เลยว่าทำไมบทนี้มันร้ายจริง" ผลตอบรับเป็นไงบ้าง "หมิวดีใจที่ทุกคนรับได้ ถ้าดีก็จะเล่นร้ายขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกเป็นกำลังใจ ที่ผ่านมาเราก็เล่นเป็นคนดีเยอะแล้วนะคะ จริงๆ พอนักแสดงได้รับบทบาทมันรู้สึกท้าทายดี มีโอกาสได้รับบทดี ๆ เข้ามา คนก็รับการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างของเรา และก็รับกับบทใหม่ เราก็รู้สึกว่า เรายังยืนหยัดทำงานแบบนี้ต่อไปอย่างมั่นใจขึ้นด้วย" พอจะมีคนมาติดต่อให้เล่นละคร "มีติดต่อมา แต่พอดีคิวไม่ว่าง ต้องขอโทษเราก็เสียดายเหมือนกัน" ถือว่าแจ้งเกิดในบทร้ายเลยหรือเปล่าสำหรับละครเรื่องนี้ "ไม่ถึงขนาดแจ้งเกิด แต่รู้สึกว่า ถ้าเกิดคนชอบ แต่ว่าไม่ใช่จะเป็นบทร้ายเป็นสิ่งที่ดีแล้วหน้าตา คือมันเป็นดาบ 2 คมมาก บางทีเราเล่นเป็นร้าย เพื่อที่จะให้เห็นว่าคนมันมีหลากหลายรูปแบบ คนดูจะได้ว่า คนก็มีมุมหนึ่งของเขานะ ไม่ใช่ว่าเล่นร้ายแล้วจะให้ชื่นชมกับคนนิสัยไม่ดี ดูแล้วก็ต้องมีวิจารณาญาณในแง่มุมมันมีหลากหลาย ในลักษณะในการเล่นร้ายและมันทำให้มีเหตุผลในเรื่อง กับการที่รู้จักคนมากขึ้น ก็ยินดีที่จะรับบทเป็นตัวละครตัวนั้น" มีคนดราม่าไม่อยากให้เล่นร้ายเลย "อ่อ มันก็คงไม่ได้ ยิ่งอายุมากขึ้นทางเลือกในการเล่นบทบาทมันน่าจะมีมากขึ้น เพราะเราเล่นอย่างนั้นมามากแล้ว และคนมองเขามองว่าเราไม่ใช่แล้วล่ะ ที่จะเล่นเป็นคนดี คนไม่เชื่อว่าเราจะไร้เรียงสา อายุเท่านี้ไม่ไร้เรียงสาแล้ว เริ่มทันคนมากขึ้น เริ่มทำร้ายคนบ้าง ซึ่งต้องเป็นแบบนี้แล้ว" ทำงานหนักอย่างนี้ ลูกๆ เป็นไงบ้าง "ลูกตอนนี้ก็คนโตอายุ 14 ปี ก็ย่างเข้าวัยรุ่น เขาก็เป็นวัยที่เริ่มจะมีความคิดเป็นของตัวเอง บางทีก็กวนประสาทเหมือนกัน เราก็เคยเป็นวัยรุ่นแบบนั้นมาก่อน ตอนนี้ก็เหมือนกรรมตามสนอง เราเคยทำอะไรเอาไว้ ตอนนี้เหมือนลูกจะค่อยๆ แสดงออกมา เหมือนกับเราเห็นเงาตัวเอง ยังมีความสุขที่ได้ดูแลเขา และอยากให้เขามีอนาคตที่ดี" ฉายแววเป็นนักแสดงเหมือนแม่ "ตอนนี้เขาชอบเป็นนักกีฬาฟุตบอล ยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าวันนึงเขาอยากจะเล่นเราก็ไม่ปฏิเสธ" มีคนมาจีบให้เข้าวงการไหม "ตอนนี้หรอคะ ที่ผ่านมาก็มีบ้าง พอดีเขาติดดูหนังสือเยอะ แล้วจะต้องหยุดเรียน เลยไม่อยากให้เขาหยุดเรียนสักเท่าไหร่ ทั้ง 2 คนเลย แต่งานเล็กๆ น้อยๆ ช่วงนี้ตั้น "ด.ช.ศักดิเดช ศศิประภา" มีเล่นละครเวที ก็อยากให้เขา เข้ามามีส่วนฝึกอาชีพ เหมือนกับการที่ให้ลูกได้เรียนรู้ถึงอาชีพหนึ่ง เขาจะได้รู้ว่าแม่ทำงานแบบนี้มา อยากให้เขาทำถ้ามีเวลา พอดีว่าช่วงนั้นปฏิเสธไป เพราะว่าต้องเรียนหนังสือ" จะเปิดโอกาสให้น้องเขาได้เข้าวงการไหม "จริงๆ ก็ไม่ได้ปฏิเสธนะคะ เพราะว่าพี่ๆ ที่อยู่ในวงการก็พอจะรู้จักน้องเขา" น้องเขาชอบนักกีฬาจะสนับสนุนไหม "เต็มที่ค่ะ เขาอยากเป็นนักฟุตบอล เราก็ไม่ปิดกั้นตรงนั้น อาชีพไหนๆ ก็ดีทั้งนั้น ตอนนี้ให้เขาคิดถ้าสิ่งที่เขาทำนั้นสุจริต ไม่ทำร้ายใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ส่งเสริมเขาตรงนั้น"