นายแพทย์ประเวศ วะสี ได้เสนอทางออกในการปฏิรูปประเทศไว้ 3 แนวทางเพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งการปฏิรุปการเมือง การกระจายอำนาจการปกครองไปสู่ท้องถิ่นเพื่อให้การแก้ไขปัญหาได้ผลรวดเร็วขึ้นประกอบกับการลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคม ด้วยเห็นว่าการที่ทุกฝ่ายพยายามหาทางออกจากวิกฤตการทางการเมืองที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเห็นตรงกันว่าจำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปประเทศนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในท่ามกลางวิกฤต เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่คนไทยทั้งประเทศจะเห็นตรงกัน สถานการณ์ในครั้งนี้แม้แต่ฝ่ายที่เคยขัดแย้งก็เห็นตรงกัน หากรวมตัวกัน กำหนดเป้าหมายร่วมกันก็จะเป็นพลังสำคัญและเป็นโอกาสที่จะปฏิรูปประเทศได้สำเร็จ ขณะเดียวกันสิ่งที่ควรดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือการแก้ไขปัญหาความแตกแยก ความรุนแรง เพื่อให้ประเทศมีบูรณภาพ ซึ่งควรจะดำเนินการควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาไฟใต้ซึ่งการที่จะสามารถแก้ปมเหล่านี้ได้ต้องทำความเข้าใจกับสาเหตุของความรุนแรงก่อน นอกจากนี้ควรมีการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนด้วย นายแพทย์ประเวศ วะสี ยังเห็นว่า แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช.จะเข้ามาควบคุมการบริหารประเทศในภาวะที่ไม่ปกติ และไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่หาก คสช.ใช้โอกาสที่มีอยู่ทำเรื่องดี ๆ ผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศให้สำเร็จ ด้วยความตั้งใจดี และความสุจริตใจ พยายามเปิดให้มีการปฏิรูปประเทศจากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ผู้คนก็ยอมรับได้ และที่ผ่านมาสังคมไทยได้ผ่านการถกเถียงกันเรื่องการปฏิรูปประเทศจนได้ข้อสรุปมาแล้วในแทบทุกประเด็น หากมีความตั้งใจจริง รวมรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ และผลักดันให้เป็นวาระสำคัญของคนทั้งชาติ ก็น่าจะมีโอกาสปฏิรูปประเทศได้สำเร็จ ทั้งนี้ นายแพทย์ประเวศ วะสี ได้เคยทำหน้าที่ผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศในหลายครั้ง ทั้งในฐานะประธานคณะสมัชชาปฏิรูปประเทศ หลังเกิดวิกฤตการณ์ ในปี 2553 และประธานคณะกรรมการพัฒนาประชาธิปไตย หรือ คปพ.ในช่วงปี 2537-2538 จัดทำข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปการเมืองร่วมกับทีมนักวิชาการชั้นนำทั่วประเทศ และถือเป็นรากฐานสำคัญในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2540