บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แผนตั้งกองอสังหาฯ เทอร์มินอล21 ยังไม่ชัดเจน ต้องลดขนาดลงเหลือ 1 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้บริษัทต้องปรับเป้าเอยูเอ็มใหม่ นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทได้ปรับเป้าการเติบโตของสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ในส่วนของธุรกิจกองทุนรวมลง จากเดิมที่เคยตั้งเป้าปีนี้จะโตถึง 40,000 ล้านบาท แต่คงไม่ถึงแล้วในปีนี้ เพราะก่อนสิ้นปีที่ผ่านมาบริษัทมีแผนออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) รวมอยู่ด้วย คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ไปลงทุนในเทอร์มินอล21 และโฮมโปรมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ปรับลดขนาดโครงการลงมาเหลือประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยการตั้งกองทุนได้รับการอนุมัติจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรอเสนอขายให้ทันสิ้นปี 2557 นี้เท่านั้น แต่ในภาวะเช่นนี้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์เองก็อาจจะไม่อยากนำสินทรัพย์เข้ากองทุน หรืออยากจะตั้งเป็นกองเดี่ยวของตัวเองไปมากกว่า ไม่อยากนำสินทรัพย์มารวมกันซึ่งยังคงต้องรอการตัดสินใจอยู่ว่าจะสามารถเสนอขายในรูปแบบของกอง 1 ที่ได้ยื่นไว้หรือไม่ หรืออาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบเป็นกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) แทน ซึ่งน่าจะมีข้อสรุปออกได้ในช่วงปลายปี เธอกล่าวว่า การปรับแผนจากการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ใหม่ มาเป็นการออกกองทุนแอล เอช ไทย พร็อพเพอร์ตี้ (LHTPROP) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ไปลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แทนนั้น ก็ทำให้เป้าการเติบโตในปีนี้คงต้องปรับลดลงมาด้วย เพราะบริษัทมองว่าเป็นจังหวะการลงทุนในตลาดรองมากกว่าที่จะตั้งเป็นกองทุนใหม่ขึ้นมา โดยกองทุนดังกล่าวตั้งเป้าผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 6 - 7% แต่แผนการเพิ่มทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ (QHHR) ยังเป็นไปตามแผนเดิมโดยจะลงทุนในโครงการโรงแรมเซนเตอร์ พอยต์-บางรักเพิ่มอีก 1 แห่งในปีนี้ นางจันทนา ยังกล่าวอีกว่า บริษัทไม่ได้เน้นในส่วนของเอยูเอ็มเป็นหลัก แต่เน้นธุรกิจที่ทำแล้วอยู่ได้มีกำไร ปัจจุบันบริษัทมีผลขาดทุนประมาณ 6 ล้านบาท และมีขาดทุนสะสมประมาณ 30 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะล้างขาดทุนสะสมให้หมดภายในสิ้นปีนี้ และเริ่มมีกำไรสะสมในปีหน้า ปัจจุบันในส่วนกองทุนรวมนั้นประมาณ 50% เป็นกองทุนรวมทั่วไป แบ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้และกองทุนหุ้นอย่างละครึ่ง และอีก 50%เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกประมาณ 1,400 ล้านบาท ที่ทำให้กับบริษัทในเครือเป็นหลัก ในส่วนของแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์บริษัทเอง มีความพร้อมเพราะมีใบอนุญาตเป็นผู้จัดการกอง REIT (REIT Manager) ด้วย ซึ่งในการออกก็คงต้องพิจารณาดูให้ดี นอกจากนี้กำลังพิจารณาที่จะยื่นขอใบอนุญาตเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee) เพิ่มเติมด้วย สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ Terminal21 นั้น เธอกล่าวว่าถ้าจะเสนอขายในรูปแบบกอง1 ต้องเป็นไปตามโครงสร้างเดิมที่เสนอไว้กับทางสำนักงานก.ล.ต. แต่หากไม่สามารถทำบนโครงสร้างเดิมได้ก็อาจจะพิจารณาตั้งในรูปแบบของกองรีท (REIT) แทน ซึ่งกองทุนอาจจะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมก็ได้ โดยอาจจะแยกทำเป็น 2 กอง คือ กอง Terminal21 กับกองโฮมโปร แยกจากกันก็ได้ ตอนนี้ยังไม่ข้อสรุปขึ้นกับสถานการณ์และการตัดสินใจของเจ้าของทรัพย์สินอีกครั้งด้วยเช่นกัน Tags : แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ • กองทุน • อสังหาริมทรัพย์